โฟกัสเศรษฐกิจ: เกาถูกที่คัน : ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล

ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ภายใต้การกำกับดูแลของดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และภายใต้การอำนวยการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับกระสุนนัดแรกมูลค่า 1.36 แสนล้านบาท ที่ล็อคเป้ายิงถล่มใส่ปัญหาความอัตคัดขัดสนของผู้มีรายได้น้อย

       ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ภายใต้การกำกับดูแลของดร.สมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และภายใต้การอำนวยการของพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  กับกระสุนนัดแรกมูลค่า 1.36 แสนล้านบาท ที่ล็อคเป้ายิงถล่มใส่ปัญหาความอัตคัดขัดสนของผู้มีรายได้น้อย ดูจะได้รับการขานรับเป็นมติเอกฉันท์จากมหาชนว่า”เกาถูกที่คัน”

           ดร.ประสาร  ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีหน้าที่หลักในการกำกับดูแลรักษาเสถียรภาพตลาดเงิน ที่เคยแสดงความเป็นห่วงเป็นกังวลเรื่องภาระหนี้ภาคครัวเรือน แม้ไม่ถึงชูมือเชียร์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกแรกของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ แต่ก็ออกปากแสดงความชื่นชมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าน่าจะส่งผลดีในการช่วยพยุงเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นได้

        ผู้ว่าแบงก์ชาติ ยังตั้งข้อสังเกตในการพินิจพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ใช้วิธีปล่อยเงินผ่านธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) ผ่านไปยังกองทุนหมู่บ้าน คู่ขนานไปกับตำบล และกระทุ้งการใช้จ่ายเงินงบประมาณผ่านโครงการขนาดเล็ก โดยให้ความเห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ไม่ได้มีการ”แจกเงิน” แต่เป็นลักษณะการเติมสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเข้าข่ายเป็น”ประชานิยม”

          คุณบัณฑูร  ล่ำซำ บิ๊กบอสใหญ่ค่ายแบงก์กสิกรไทย บอกว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำ เพื่อฉุดเศรษฐกิจของประเทศที่กำลัง”ติดหล่ม” จากทั้งปัญหาเศรษฐกิจในประเทศและนอกประเทศ

         คล้อยหลังการปล่อยกระสุนชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรกไม่นาน ทีมเศรษฐกิจก็ยิงกระสุนชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนัดที่สอง ตามออกมาแบบกระชั้นชิด โดยเล็งเป้าโจมตีเข้าใส่ปัญหาที่กัดกร่อนบั่นทอนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เพื่อโด๊ปกิจการกลุ่มนี้ซึ่งเปรียบประดุจรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจ ให้มีความสมบูรณ์ แข็งแรง

ชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนัดที่สองนี้ จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก

ส่วนแรก คือสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูสถานะทางการเงินเอสเอ็มอี ซึ่งจะช่วยเสริมเติมสภาพคล่องให้แก่เอสเอ็มอี ทำให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินได้สะดวกรวดเร็ว

ส่วนที่สอง คือ กองทุนเพื่อการแก้ปัญหาการเงินเอสเอ็มอี ซึ่งจะช่วยปลดล็อคเอสเอ็มอี ให้พ้นสถานะความเป็น”ลูกหนี้มีปัญหา” สู่ความเป็น”ลูกหนี้ปกติ”

ส่วนที่สาม คือ กองทุนเพื่อการเริ่มต้นกิจการเอสเอ็มอี ซึ่งจะช่วยสร้างเสริมให้เกิดเอสเอ็มอีรายใหม่ๆ มาช่วยเสริมความมั่นคงแก่ระบบเศรษฐกิจ

คุณเพ็ญทิพย์  พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ยอมรับว่าชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ที่กำหนดแนวทางช่วยเหลือเอสเอ็มอี เป็นมาตรการที่เกาได้ถูกที่คัน

น่าดีใจที่ชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ออกมาได้โดนใจมหาชน ทำให้ความหวังของคนไทยถูกจุดประกายให้วาววับขึ้น……