คุณธวัชชัย เฮงประเสริฐ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) กล่าวว่า เวียดนามเป็นดาวรุ่งในอาเซียน และโอกาสการลงทุนในเวียดนามมีแนวโน้มสดใด สำหรับนักลงทุนไทยมีโอกาสไปลงทุนในเวียดนามในหลายธุรกิจ เช่น การแปรรูปการเกษตร, การแปรรูปอาหารทะเล, เครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยีสูง, การซ่อมบำรุง, โรงพยาบาล รวมถึงการท่องเที่ยว เนื่องจากเวียดนามมีชายแดนติดกับทะเลเป็นแนวยาวประมาณพันกว่ากิโลเมตร เหมาะสมในการท่องเที่ยว
“ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมสูงอายุ ดังนั้นแรงงานของเราก็ขาดแคลนพอสมควร เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแรงงานมาก โดยประชากรวัยแรงงานมีจำนวน 45 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 92 ล้านคน แรงงานเวียดนามอยู่ในช่วงอายุ 15-40 ปี จึงเป็นที่สนใจหากเราจะย้ายฐานการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น เช่น สิ่งทอ, รองเท้า, เครื่องหนัง” คุณธวัชชัย กล่าว
คุณธวัชชัย ยอมรับว่า เรื่องนี้ได้ส่วนหนึ่ง เสียส่วนหนึ่ง โดยไทยอาจเสียเรื่องการลงทุนบางส่วนไปให้เวียดนาม แต่ไทยจะได้ในแง่ของการวิจัยและพัฒนา ประเทศที่จะไปลงทุนในเวียดนามก็ยังคงงานวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย แต่สินค้าหรืออุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสูงก็จะไปทำที่เวียดนาม
“ไทยยังคงสามารถรักษาส่วนที่เป็นทางด้านไฮเทคไว้ได้ เนื่องจากประสิทธิภาพแรงงานของไทยถ้าเทียบตัวต่อตัวกับเวียดนาม เรายังสูงกว่าเขาอยู่”
อย่างไรก็ตาม คุณธวัชชัย ประเมินว่า หลังเปิด AEC ศักยภาพของเวียดนามในแง่การเป็นศูนย์กลางการลงทุนสูงกว่าประเทศไทย เนื่องจากเวียดนามมีแรงงานจำนวนมาก และอยู่ในวัยหนุ่มสาว สอง เรื่องพื้นฐานการศึกษา รัฐบาลเวียดนามส่งเสริมการศึกษาเรื่องเทคโนโลยีและวิศวกรรมอย่างมาก ดังนั้นเวียดนามจึงมีฐานในการรองรับอุตสาหกรรมในอนาคต สาม จำนวนประชากรของเวียดนามมีมาก สี่ ตลาดเวียดนามมีขนาดใหญ่