งบการเงินเข้าใจได้ไม่ยาก : พรรณี วรวุฒิจงสถิต

พรรณี วรวุฒิจงสถิต

ผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่จ้างสำนักงานบัญชีเป็นผู้ทำบัญชีให้กับกิจการ โดยที่ผู้ประกอบการเข้าใจว่า การทำบัญชี การทำงบการเงินเพื่อส่งกระทรวงพาณิชย์ ส่งสรรพากร เป็นหน้าที่ของสำนักงานบัญชี

 ผู้ประกอบการ SME  ส่วนใหญ่จ้างสำนักงานบัญชีเป็นผู้ทำบัญชีให้กับกิจการ  โดยที่ผู้ประกอบการเข้าใจว่า  การทำบัญชี การทำงบการเงินเพื่อส่งกระทรวงพาณิชย์ ส่งสรรพากร เป็นหน้าที่ของสำนักงานบัญชี  แท้จริงแล้วตามกฎหมายภาระหน้าที่นี้เป็นของผู้ประกอบการที่ต้องรับผิดชอบ หากมีการทำบัญชีผิดพลาด ผู้ที่จะได้รับโทษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับ หรือร้ายแรงสุดมีโทษจำคุก  ผู้รับผิดชอบคือตัวผู้ประกอบการเอง 

                 ดังนั้น แม้ว่าผู้ประกอบการจ้างนักบัญชีทำบัญชี ไม่ว่าจ้างเป็นสำนักงานหรือเป็นพนักงานในกิจการ  ผู้ประกอบการต้องมีความรู้เบื้องต้นในสิ่งที่เรียกว่างบการเงินว่าหมายความว่าอย่างไร  ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งแม้ไม่มีความรู้ด้านบัญชี แต่ในฐานะเจ้าของ ผู้ประกอบการก็สามารถรับรู้ถึงความถูกต้อง หรือความผิดปกติของงบการเงินได้เป็นอย่างดี  ซึ่งในกรณีนี้หมายความว่า กิจการต้องมีบัญชีชุดเดียว  หากมีหลายชุด นอกจากงบการเงินนั้นไม่น่าเชื่อถือแล้ว  ตนเองก็ไม่สามารถรู้ถึงความถูกต้องของทรัพย์สินหนี้สินที่แท้จริงได้ หรือแม้แต่กำไรขาดทุนก็ไม่ใช่ความจริง และยังทำให้มีโอกาสเกิดการทุจริต รั่วไหลโดยไม่สามารถควบคุมได้  ที่สำคัญการมีบัญชีหลายชุดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย

                 มาทำความเข้าใจงบการเงินอย่างง่าย ๆ  จะว่าไปแล้วงบการเงินถ้าจะเปรียบก็เหมือนกับตัวตนของกิจการที่คนภายนอกมองเห็นได้ว่าหล่อ สวย หรือขี้เหร่ เป็นคนมีฐานะดีหรือไม่  ขยันทำมากินเก่งแค่ไหน ดังนั้นทุกคนจึงต้องมีงบการเงินที่เชิดหน้าชูตาได้   ในทางมาตรฐานการบัญชี  คำว่างบการเงินจะประกอบไปด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน  งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ  และหมายเหตุประกอบงบการเงิน  งบเหล่านี้เป็นบทสรุปที่ล้วนแล้วแต่ได้มาจากการทำบัญชีนั่นเอง

                งบแสดงฐานะการเงินชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าแสดงถึงฐานะการเงินของกิจการตั้งแต่เริ่มจัดตั้งจนถึงปัจจุบัน ว่ามีสินทรัพย์ หนี้สินและส่วนทุนอยู่จำนวนเท่าใด  แสดงถึงฐานะของกิจการว่ารวยหรือจนอย่างไร ซึ่งจะไปสอดคล้องกับงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ  ที่เป็นส่วนที่แสดงถึงกองทุนของกิจการว่ามีสะสมอยู่มากน้อยแค่ไหน  แต่ละปีเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง  หากมีมากก็แสดงถึงความมั่งคั่งของกิจการ  เพราะส่วนของเจ้าของนี้  แท้จริงก็คือส่วนที่เป็นยอดคงเหลือ จากสินทรัพย์ทั้งหมด หักด้วยหนี้สินทั้งหมดนั่นเอง

                 งบกำไรขาดทุน จะแสดงถึงผลประกอบการในแต่ละปี  ให้เห็นถึงความสามารถในการหารายได้   แสดงรายการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพื่อการหารายได้นั้นๆ  เมื่อสุทธิกันแล้วได้กำไรหรือขาดทุนกี่มากน้อย  กำไรขาดทุนนี้จะถูกเก็บสะสมไว้ในบัญชีกำไรขาดทุนสะสมซึ่งอยู่ในส่วนของเจ้าของนั่นเอง  ดังนั้นส่วนของเจ้าของจะเพิ่มขึ้นทุกปี หากกิจการมีกำไรทุกปี  แต่หากขาดทุนก็จะไปลดมูลค่าของส่วนของเจ้าของให้ลดน้อยถอยลง

                 สำหรับหมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นอะไรที่เขาให้เปิดเผยในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านงบการเงินได้มีความเข้าใจมากขื้น   นอกจากจะเป็นการให้รายละเอียดประกอบบัญชีแต่ละบัญชีในงบการเงินแล้ว  ยังเปิดเผยถึงนโยบายการบัญชีที่กิจการนำมาใช้ในการบันทึกจัดทำงบการเงิน  และเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่ไม่ได้บันทึกไว้ในบัญชี เช่น ภาระหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น เป็นต้น

               ด้วยเหตุนี้ งบการเงินจึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นตัวตนของกิจการ ในเรื่องของฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นซึ่งจะมีผลกระทบต่อฐานะของกิจการในอนาคต เมื่อเป็นเช่นนี้ท่านผู้ประกอบการต้องจัดให้มีกระบวนการจัดทำงบการเงินที่เป็นที่เชื่อถึอได้ เป็นการเสริมสร้างเครดิตของท่านในการที่จะนำงบการเงินไปใช้ในการหาแหล่งเงินทุน ไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมหรือหาพันธมิตรมาร่วมลงทุนเพื่อการพัฒนาหรือขยายการดำเนินงาน   ประกอบกับการรู้จักการวางแผนอย่างมีกลยุทธ์  ก็จะทำให้กิจการสามารถทำกำไร และเติบโตได้อย่างยั่งยืน

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ