วัฒนธรรมธุรกิจชา-กาแฟ : เสน่ห์ ศรีสุวรรณ

columnist

อังกฤษมีชื่อเสียงมากในเรื่องของการดื่มชา ตั้งแต่ศตวรรษที่สิบแปดอังกฤษขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปริมาณการบริโภคชาต่อคนมากที่สุดในโลก เฉลี่ยคนละประมาณ 1.9 กิโลกรัมต่อปี

เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาผมไปเที่ยวประเทศอังกฤษกับครอบครัว หลังจากที่ผมเรียนและใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานมาเป็นเวลานาน แต่ไม่เคยไปประเทศเจ้าของภาษา ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปประเทศอังกฤษ น่าประหลาดใจว่าเจอคนอังกฤษแท้ๆน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย ที่เข้าไปทำงาน ทำธุรกิจการค้า และเรียนหนังสือ

อังกฤษมีชื่อเสียงมากในเรื่องของการดื่มชา ตั้งแต่ศตวรรษที่สิบแปดอังกฤษขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปริมาณการบริโภคชาต่อคนมากที่สุดในโลก เฉลี่ยคนละประมาณ 1.9 กิโลกรัมต่อปี โดยนำต้นกล้าชาจากประเทศจีนนำมายังปลูกในอินเดียซึ่งเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ พร้อมกับสร้างวัฒนธรรมทางการค้าให้การบริโภคชาให้เป็นเรื่องของสังคมชั้นสูงในยุโรปและต่อเนื่องมาจนปัจจุบันนี้

การดื่มชาของอังกฤษจะแตกต่างจากประเทศอื่น ญี่ปุ่นดื่มชาเพื่อสุขภาพเช่นชาเขียว จีนดื่มชาเพื่อล้างไขมันหลังรับประทานอาหาร ทั้งญี่ปุ่นและจีนนิยมดื่มน้ำชาโดยไม่ใส่นม  แต่อังกฤษนิยมดื่มชาที่เข้มข้นผสมนมสดและใส่น้ำตาลสักหนึ่งถึงสองช้อน ไม่ค่อยนิยมดื่มแบบน้ำชาเปล่าหรือชามะนาว

ผมไปอังกฤษคราวนี้ได้มีโอกาสไปนั่งดื่มชาของอังกฤษที่เรียกว่า High Tea ของร้านที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ของอังกฤษในกรุงลอนดอน ทางร้านจะเสิร์ฟชาผสมนมสดใส่กา มีน้ำตาลก้อนใส่ถ้วยให้เติมตามชอบ ดื่มพร้อมขนมปังสโคน(Scone) ดื่มไปคุยกันไปได้บรรยากาศของการดื่มชาเพื่อสังคม ราคาก็สมชื่อ High Tea คือราคาสูงพอสมควร รสชาติดีแถมมีรสนิยม ปัจจุบันเราไม่ต้องเดินทางไปถึงอังกฤษก็ได้เพราะมีการเปิดร้านชาแบบ High Tea ของอังกฤษให้คนไทยได้นั่งดื่มได้สังคมกันแล้ว ราคาสูงเหมือนต้นฉบับจากประเทศอังกฤษ

ความนิยมของการดื่มชาในเมืองไทยยังไม่มีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์นัก อดีตชอบดื่มชาแบบจีน มีโรงน้ำชาให้คนไปนั่งดื่มนั่งคุยกันหลังมื้ออาหาร หรือชงชาจีนใส่การินใส่ถ้วยชาเล็กๆดื่มกันไปคุยกันไป มีการดื่มชาญี่ปุ่นโดยเฉพาะชาเขียว จนในระยะหลังเกิดความนิยมดื่มชาเขียวพร้อมดื่มบรรจุขวดตามตู้แช่ทั่วไป การตลาดชาเขียวในประเทศไทยแข่งขันกันรุนแรงมาก มีจัดรายการส่งเสริมการขายให้โชคกันแบบสร้างความร่ำรวยเหมือนถูกหวยกันไปเลย จนกลายเป็นว่าสำหรับคนไทยแล้วการดื่มชาเพื่อสุขภาพเป็นเรื่องรองจุดประสงค์หลักในการดื่มชาคือเพื่อชิงโชค ดื่มกันจนเป็นเบาหวานก็ยอมขอให้ได้ฝาชิงโชค

มีเรื่องสนุกว่าญาติโยมเอาชาเขียวแช่เย็นถวายพระพร้อมเปิดฝาให้เสร็จ พระรับประเคนชาเขียวแล้วพร้อมกับเปรยขึ้นว่า

“คุณโยม ฝาขวดชาเขียวไปไหนล่ะ ถวายมาด้วยกันเลยก็ได้นะ…”

แสดงพระท่านเองก็คงอยากจะลุ้นโชคจากฝาชาเขียวอยู่เหมือนกัน

ในอังกฤษความนิยมดื่มชายังคงเป็นเรื่องของสังคม บางร้านจะไม่อนุญาตให้ลูกค้าที่แต่งกายไม่สุภาพเข้าร้าน ในขณะที่ร้านกาแฟก็มีไม่น้อยโดยเฉพาะร้านกาแฟชื่อดังของอเมริกามีลูกค้าเข้าไปอุดหนุนมากมายแถมไม่มีข้อกำหนดเรื่องการแต่งกาย ไปเที่ยวอังกฤษคราวนี้ผมไปนั่งดื่มกาแฟร้านชื่อดังนี้หลายครั้งเหมือนกัน ราคาแพงกว่าในประเทศไทยแต่รสชาติมาตรฐานเดียวกัน

ผมได้มีโอกาสคุยกับคนไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอังกฤษและเคยเป็นพนักงานของบริษัทร้านกาแฟชื่อดังของอเมริกาอยู่หลายปี เขาเล่าให้ฟังว่าตลาดกาแฟทั่วโลกเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ความนิยมการดื่มกาแฟมีอยู่ทุกประเทศ กาแฟมีสองพันธ์ที่รู้จักและนิยมดื่มกันก็คือ อาราบิกา(Arabica) เป็นกาแฟแบบดั้งเดิมรสชาติดี และโรบัสต้า(Robusta) รสเข้มปริมาณคาเฟอินสูง

ประเทศไทยเราธุรกิจกาแฟมีหลายรูปแบบ เช่นกาแฟชงแบบโบราณ กาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม(Instant Coffee)ตักผงกาแฟใส่น้ำร้อนชงดื่มได้เลย กาแฟบรรจุขวดหรือกระป๋องจำหน่ายตามตู้แช่ และความนิยมที่มาแรงมากก็คือร้านกาแฟสดที่มีมากมายทั่วประเทศโดยเฉพาะในสถานีบริการน้ำมัน ศูนย์การค้า ศูนย์อาหาร มีทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ

แบรนด์ที่มีชื่อเสียงมักจะใช้รูปแบบการขยายจำนวนร้านกาแฟแบบ Franchise หาผู้สนใจมีดำเนินธุรกิจเปิดร้านกาแฟภายใต้มาตรฐานของแบรนด์ ในขณะที่แบรนด์ต่างประเทศที่มีชื่อเสียงมักจะขยายจำนวนร้านกาแฟโดยบริษัทดำเนินการเอง(Company Operate)

มีหลักสูตรอบรมการเปิดธุรกิจร้านกาแฟทั้งร้านกาแฟข้างถนน รถเข็น ในห้างร้าน สถานการศึกษา  ฯลฯ มีการอบรมเทคนิคการชงกาแฟแบบมืออาชีพที่เรียกว่าบาริสต้า(Barista) เป็นกระแสธุรกิจและอาชีพที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

การลงทุนธุรกิจร้านกาแฟไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากนัก ภาระหนักจะอยู่ที่ค่าเช่าร้านหรือสถานที่ ไม่ต้องห่วงเรื่องสินค้ากาแฟหมดอายุยกเว้นผลิตภัณฑ์นม และขนมที่จำหน่ายควบคู่ไปกับกาแฟ กลายเป็นธุรกิจเล็กๆที่ผู้เริ่มต้นธุรกิจหรืออยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองนิยมทำกัน

กระแสธุรกิจชา-กาแฟในประเทศไทยก็ค่อนข้างชัดเจนว่า ธุรกิจชาจะเน้นหนักไปในรูปแบบชาเขียวพร้อมดื่ม ชาจีนชาญี่ปุ่นมีจำหน่ายให้ซื้อไปชงดื่มกันเอง High Tea แบบอังกฤษเริ่มเข้ามาแต่คงได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มไม่กว้างขวาง ในขณะที่ธุรกิจกาแฟมีการเติบโตอย่างชัดเจนในทุกรูปแบบ กาแฟกระป๋องยังเป็นที่นิยมของนักขับขี่ กาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่มเป็นที่นิยมทั่วไปทั้งที่บ้านและสำนักงาน ร้านกาแฟสดเป็นกระแสที่มาแรงที่เข้าทดแทนกาแฟสำเร็จรูปสำหรับคอกาแฟ

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ