รัก (บริษัท) แล้วยังไง : อ.สุขุม นวลสกุล

อ.สุขุม นวลสกุล

สมัยผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยผมมีแฟนเป็นนักศึกษาด้วยกัน ผมเป็นคนปักษ์ใต้ซึ่งก็ต้องชื่นชมอาหารใต้เป็นธรรมดา แต่แฟนผมเป็นลูกครึ่งคือครึ่งจีนครึ่งไทยที่ชอบรับประทานอาหารจีน แน่นอนครับเวลาพาเธอไปกินโน้นกินนี่ผมมักชวนเธอเข้าร้านอาหารจีน

ครั้งที่แล้วผมแนะนำว่าคนเราทำงานที่ไหนก็ต้องรักที่นั่น ได้ยกแม่น้ำห้าสาย เอ๊ย….ทุกสายมาสาธยายว่าทำไมต้องรักบริษัท  วันนี้ผมขอแนะนำต่อให้ครบสูตรนะครับว่า  เมื่อรักบริษัทแล้วควรประพฤติปฎิบัติอย่างไร  ไม่ใช่เอาแต่พูดว่ารักแต่ใครต่อใครเห็นการกระทำของเราแล้วกลับวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ดีแต่พูด”

การรักบริษัทแล้วจะแสดงออกให้ผู้บริหารรู้ได้ว่าเรารักบริษัทนั้นเป็นเรื่องสำคัญ  เพราะถ้าบริษัทเขาสัมผัสได้ถึงความรักของเรา เขาก็ย่อมต้องเห็นคุณค่าของเรา  สนับสนุนให้เราก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

ส่วนจะแสดงออกอย่างไรนั้น  ผมอยากให้ลองเทียบเคียงกับเมื่อเราเกิดรักใครเข้าสักคน   ผมแน่ใจว่าสิ่งแรกที่เราจะทำก็คือพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเราไม่ว่านิสัยหรือรสนิยมให้ตรงกับความต้องการของคนที่เรารัก  เพราะอยากให้เขาพอใจในตัวเรา

ตัวอย่างเช่น  สมัยผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยผมมีแฟนเป็นนักศึกษาด้วยกัน  ผมเป็นคนปักษ์ใต้ซึ่งก็ต้องชื่นชมอาหารใต้เป็นธรรมดา แต่แฟนผมเป็นลูกครึ่งคือครึ่งจีนครึ่งไทยที่ชอบรับประทานอาหารจีน  แน่นอนครับเวลาพาเธอไปกินโน้นกินนี่ผมมักชวนเธอเข้าร้านอาหารจีน  นานๆ ครั้งจึงจะชวนกินอาหารปักษ์ใต้ตามใจปากผม  แต่ว่าไม่ว่ากินอาหารจีนหรืออาหารใต้ผมก็เจริญอาหารทั้งนั้นครับ  เพราะขณะนั้นอยู่ในวัยเจริญพันธ์

โชคดีที่แฟนผมเป็นคนชอบลองชอบชิม  แม้เธอจะชอบอาหารจีนแต่เวลาชวนกินอาหารปักษ์ใต้บางมื้อเธอก็ไม่ปฏิเสธ จนต่อมาเธอติดใจอาหารใต้ตั้งหลายอย่าง  หรือว่าเธอก็พยายามทำตามใจผมเหมือนกัน…….ฮ่า

ผมเป็นคนชอบดูหนังประเภทสยองขวัญประเภทภูติผีปิศาจไม่ว่า นางนาค หรือแดรกคูล่าผีไทยหรือผีต่างประเทศผมได้ทั้งนั้นขอให้เป็นผีก็แล้วกัน   แต่แฟนผมนี่หนังผีไม่เอาเลย ผมก็ต้องดูหนังที่ไม่มีผีกับเธอ เพราะอยากให้เธอพอใจ   แต่เรื่องหนังนี่รสนิยมเธอไม่เปลี่ยนเลยนะครับ  จนป่านนี้อยู่กันจนอยู่ในปัจฉิมวัยแล้ว  ชวนดูหนังผียังไม่ยอมไปอยู่นั่นแหละ  ยกเว้นแต่เป็นหนังผีแนวตลกไม่ใช่สยองขวัญ

เมื่อเรารักผู้หญิงก็มักจะตามใจเธอ  เพราะฉะนั้นถ้าเรารักบริษัทก็ควรจะตามใจบริษัท  หมายความว่าไม่ว่าบริษัทจะมีนโยบายอะไรเราก็ต้องยึดถือนโยบายนั้นเป็นหลักปฏิบัติ   เช่น แม้เราจะเป็นคนรักเสรีภาพชอบความอิสระเสรีแต่ถ้าบริษัทเรามีนโยบายให้พนักงานแต่งเครื่องแบบมาทำงาน  แม้เราจะเห็นว่าเป็นการลิดรอนเสรีภาพ  แค่ด้วยเพราะเรามีความรักในบริษัทเราก็ควรยอมแต่งเครื่องแบบ

บริษัทมีนโยบายอะไรใหม่ๆ  จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ควรปฏิบัติเพื่อแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่เรามีต่อบริษัท  ไม่เห็นด้วยประการใดก็คอยหาจังหวะที่จะซักถามหรือแสดงความเห็นต่างให้ผู้บริหารได้รับรู้   ขอคำอธิบายในที่ประชุมเป็นต้น   อย่ากบฎแบบไม่เห็นด้วยก็ไม่ยอมทำ แสดงออกโดยการประท้วงหรือสไตล์ค

เมื่อเรารักใครก็ต้องเอาใจใส่เขา  ไม่ใช่เขาอุตส่าห์ใส่เสื้อใหม่มาโชว์กลับไม่ทักสักคำว่า “แหม วันนี้เสื้อสวยจริง”  แบบนี้คนที่เรารักก็น้อยใจหรือเสียใจแน่  ดังนั้นเราอยากแสดงให้เห็นว่าเรารักบริษัทก็ต้องให้ความสนใจในความเป็นมาความเป็นอยู่และความเป็นไปของบริษัทตามสมควร

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ