คนที่เป็นหัวหน้าหรือเจ้านายที่มีลูกน้องอยู่ในการปกครองหลายๆ คนหรือจำนวนมากนั้น อย่านึกว่าเป็นเรื่องโก้เก๋ดูมีบารมีเป็นที่น่าชื่นชมเพียงด้านเดียวนะครับ ความจริงก็เป็นเรื่องที่อาจจะนำความปวดเศียรเวียนเกล้ามาสู่คนที่เป็นหัวหน้าอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
เพราะคนที่เป็นลูกน้องนั้นย่อมมีความแตกต่างทางเพศผิวพรรณรวมทั้งความคิดทัศนคติ การมาอยู่รวมกันจะให้รู้รักสามัคคีเหมือนพี่เหมือนน้องก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนแม้จะผูกพันกันด้วยสายเลือดเป็นพี่เป็นน้องคลานตามกันมาแท้ๆ ยังมีการทะเลาะเบาะแว้งถึงเป็นถึงตายกันก็มีตัวอย่างให้ได้รู้ได้เห็นอยู่
เพราะฉะนั้นคนที่เป็นหัวหน้าหรือจ่าฝูงต้องมีศิลปะในการดูแลคนที่เป็นลูกน้องให้อยู่หรือทำงานร่วมกันอย่างไม่มีปัญหา ไม่ต้องถึงขั้นขนาดรักใคร่กลมเกลียวกันหรอก เอาแค่ทำงานร่วมกันได้โดยไม่ทะเลาะเบาะแว้งก็น่าพอใจแล้ว
ใครเป็นหัวหน้าแล้วลูกน้องไม่ถูกกันหลายคนหรือหลายคู่ ก็คงบอกให้คนอื่นรู้ได้นะครับว่า ทำให้ปวดหัวและยุ่งยากแค่ไหน แค่จัดเวรให้ใครอยู่กับใครก็ต้องคอยวางตัวให้ดี อย่าเผลอให้คนที่ไม่ถูกกันอยู่เวรด้วยกันเป็นอันขาด ไม่งั้นแล้วอาจมีเรื่องยุ่งยากหรือปัญหาตามมา ถ้าไม่ระวังให้ดี
เช่น ให้ลูกน้องสองคนไม่ถูกกันอยู่เวรกลางคืนด้วยกัน เป็นไปได้นะ ที่พอถึงเช้าอาจจะเหลืออยู่คนเดียว อีกคนหายไปไหนก็ไม่รู้ ถามไอ้คนที่เหลืออยู่ มันก็ตอบแบบไม่เต็มเสียงอ้อมๆ แอ้ม ๆ ว่า “ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ” ความจริงมันแอบฆ่ายัดส้วมเสียเมื่อคืนตอนไอ้คนที่ไม่ถูกกับมันนอนหลับ……แฮ่
ดังนั้นคนที่มีลูกน้องหลายคนจึงพึงวางตัวให้ดี อย่าผิดพลาดไม่รอบคอบ จะทำอะไรกับลูกน้องต้องระมัดระวังบ้าง เพราะเขาอาจจะเป็นคู่แข่งชิงดีชิงเด่นกันอยู่ก็ได้ และเราผู้เป็นหัวหน้าย่อมเป็นเป้าหมายหนึ่งของการแย่งชิงของลูกน้อง
แน่นอนครับ คนที่เป็นลูกน้องอยากได้ความรักใคร่เมตตาของคนเป็นหัวหน้า แต่ถ้าหัวหน้าทำท่าจะรักลูกน้องไม่เท่ากัน แต่ถ้าน้ำหนักเทไปทางตัวเขามากกว่าคนอื่น เขาก็ย่อมพอใจและเป็นสุข แต่ถ้าหนักไปทางคนอื่นมากกว่าตัวเขา เขาก็จะไม่ค่อยสบอารมณ์เป็นธรรมดา
คนที่เป็นหัวหน้าจึงควรเตือนตัวเองไว้ตลอดเวลาว่า การเป็นหัวหน้านั้นภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า”ซัมบอดี้”ไม่ใช่”โนบอดี้”เหมือนสมัยที่เป็นลูกน้องเขา หมายถึงว่าจะทำอะไรจะโดนจับตามองโดยเฉพาะจากบรรดาลูกน้องทั้งหลายของเรา
สมัยที่เป็นลูกน้องเขา เราจะไปกินข้าวกลางวันกับใคร ไม่มีใครสนใจ หรือถึงสนใจก็ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ ในการทำงาน อาจจะมีติฉินนินทาบ้างก็แค่นั้นเอง แต่พอขึ้นเป็นหัวหน้าจะพาไปใครไปรับประทานอาหารด้วยก็ต้องระวังบ้างไม่งั้นอาจเกิดปัญหา
อย่างเช่น เรามีลูกน้องสิบคน แต่เราชวนลูกน้องอยู่คนเดียวให้ไปกินข้าวเที่ยงกับเรา เที่ยงไหนก็เที่ยงนั้นชวนอยู่คนเดียวเท่านั้นไม่เคยให้โอกาสคนอื่นเลย รับรองได้เลยครับว่า มีปัญหาแน่นอน อีกเก้าคนต้องไม่พอใจคนที่เป็นหัวหน้าแน่นอนหาว่าเป็นคนขาดความเที่ยงธรรม
ทั้งๆ ที่เรื่องอาหารกลางวันเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เวลางาน แต่หัวหน้าที่ชอบเพื่อนคู่กินซ้ำซากจำเจจะทำให้เป็นปัญหาในการทำงาน ไม่เพียงแต่ตัวเองโดนรังเกียจหรือไม่พอใจเท่านั้น แต่ลูกน้องคนที่เป็นที่สนิทเสน่หาของหัวหน้าจะโดนแจ้คพ๊อตไม่ชอบใจของเพื่อนร่วมงานไปด้วย
วันไหนหัวหน้าไม่มา ลูกน้องที่มีลาภปากจากหัวหน้าทุกวันอาจโดนคนอื่นๆ ที่ไม่เคยได้รับการชวนจากหัวหน้า รุมกันขอดูขนาดของลิ้นว่าขนาดไหนหรือจึงทำให้หัวหน้าหลงเสน่ห์ต้องชวนไปกินแต่เพียงผู้เดียว ไม่เคยให้โอกาสคนอื่นเลย
หัวหน้าที่หวังให้ลูกน้อง”รู้รักสามัคคี”จึงต้องระมัดระวังการวางตัวให้ดี ถ้าไม่ใช่คนขี้เหงานักก็อาจจะแอบไปกินข้าวคนเดียวไม่ชวนลูกน้องคนใดให้เกิดความอิจฉาริษยากัน แบบว่าให้อดหยากปากแห้งทั้งฝูงดีกว่าจะแตกสามัคคี หรือไม่ก็ให้แม่บ้านสำนักงานจัดหาอาหารให้กินในที่ทำงานไปเลย แต่อย่าถึงขั้นหิ้วปิ่นโตมากินเองเลย เพราะจะดูเป็นคนตระหนี่ขี้เหนียวไปไม่หน่อย
แต่ถ้าเป็นคนชอบมีคนกินข้าวด้วย ไม่ชินหรือไม่ชอบกินคนเดียวเพราะทำให้ไม่เจริญอาหาร จะชวนลูกน้องไปเป็นฝูงก็เกรงจะเปลืองงบประมาณหรือแบกภาระไม่ได้ จะชวนลูกน้องไปกินวันละคนสองคนก็ได้ แต่อย่าให้ซ้ำหน้ากัน
วันนี้ชวนคนนี้อีกวันก็ต้องชวนคนนั้นวันถัดไปก็เป็นคนโน้น หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไป ใครเป็นลูกน้องเราก็มีโอกาสได้ไปกินอาหารกับเราทั้งนั้น ดูเป็นหัวหน้าใจดีไม่เลือกที่รักมักที่ชัง หัวหน้าแบบนี้ลูกน้องพอใจแน่นอน อาจจะลุ้นกันเองเป็นที่สนุกสนาน วันนี้หัวหน้าจะหิ้วใครไปกินข้าวด้วย
ลูกน้องบางคนแม้เราอาจจะไม่ค่อยชอบหน้า แต่บางวันก็ต้องพาไปกินบ้าง เขามีสิทธิในฐานะเป็นลูกน้องเรา วันนั้นเราอาจจะพามันไปกินอะไรแปลกๆ ให้มันกระอักกระอ่วนเล่น เช่น
“น้องวันนี้ไปกินข้าวเที่ยงกับพี่นะวันนี้จะพาไปกินหนูนา”
“หัวหน้าชอบกินหนูนาหรือครับ” มันอาจจะทำท่าสงสัย
ก็ตอบไปให้มันหายข้องใจ “ไม่หรอก พี่ชอบดูคนอื่นกินน๊ะ ไม่ชอบกินเองหรอก”………..ฮ่า
หัวหน้าที่มีท่าทีมีน้ำใจกับลูกน้องโดยเสมอหน้ากันเช่นนี้ จึงจะทำให้ลูกน้องมีความสามัคคีกัน ไม่อิจฉาริษยาหรือแก่งแย่งแข่งดีกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ นะ จะบอกให้
แต่ไม่ใช่มีลูกน้องหลายคนแล้วดันบอกว่า “เอ้า เพื่อความยุติธรรม ขอให้ตกลงกันให้ได้ พาพี่ไปเลี้ยงคนละวัน” ถ้าแบบนี้ ลูกน้องคงบอกว่าไม่ต้องหรอกครับหัวหน้า พวกผมขอสามัคคีกันเองโดยไม่ต้องมีหัวหน้าก็ได้………แฮ่
หัวหน้าที่จะปฏิบัติหรือวางตัวได้เป็นกลางหรือดีแก่ลูกน้องทุกคน ต้องเป็นคนที่ตัดอารมณ์ปุถุชนอันได้แก่ รัก โลภ โกรธ หลง ลงได้ ซึ่งมีคนสักกี่คนต่อให้เป็นวิญญูชนด้วยจะทำได้ อย่างไรก็ตาม พยายามระมัดระวังอย่าทำให้ลูกน้องเห็นชัดจนเกินไปในความเป็นปุถุชนก็แล้วกัน
อย่างเช่น ผมในสมัยที่เป็นใหญ่อยู่ในงานระดับคณะแห่งหนึ่ง มีโอกาสไปทัศนศึกษาประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน กลับมาเมืองไทยนี่ลูกน้องมีความสุขครึกครื้นกันทั้งคณะเลยละครับ เพราะผมมีของมาฝากทุกคนแบบโดยเสมอภาคกันเสียด้วย
สุภาพสตรีทุกคนได้พัดแบบจีนคนละ ๑ เล่ม ส่วนสุภาพบุรุษได้ตะเกียบคนละกำ ไม่มีใครทราบจนป่านนี้กระมังว่า ลูกน้องผู้หญิงของผมคนหนึ่งที่ผมใช้งานแกมากกว่าคนอื่นในหลายๆ เรื่อง ผมแอบให้ผ้าปูที่นอนชุดใหญ่ลายมังกรอีก ๑ ผืน นอกเหนือจากพัดเหมือนที่คนอื่นได้รับ
จะไม่ให้แกเป็นพิเศษได้อย่างไร เดี๋ยวแกก็น้อยใจแย่ซี แกอาจจะคิดว่า “มีอย่างที่ไหนเวลามีนั่นมีนี่ก็ใช้แต่หนู แต่เวลาให้รางวัลกลับได้เหมือนคนอื่น แบบนี้หนูก็หมดกำลังใจแย่ซี ทีหลังอย่ามาใช้หนูอีกนะ” อะไรทำนองนี้
แต่ผมก็รอบคอบนะครับ เพราะผมกำชับแกว่า “แล้วคุณอย่าไปบอกใครละ ว่าผมให้คุณ ถ้ามีใครรู้ละก็ ผมบอกก่อนนะ ผมจะเอาคืนมาให้คนอื่นๆ จับสลากกัน”
ต้องเตือนครับ เดี๋ยวเธอเกิดทำไร้เดียงสาเอาผ้าปูที่นอนไปโชว์ใครต่อใครให้ต่อมอิจฉาริษยาระเบิดขึ้นมาทำให้แตกความสามัคคีก็ได้ ต่อมพวกนี้ยิ่งเปราะบางอยู่ด้วย
คนเป็นหัวหน้าต้องระวังนะครับ ลูกน้องบางคนชอบอ้างอิงหัวหน้าเพื่อให้คนอื่นเห็นความสำคัญของตัว เวลาทำอะไรเป็นพิเศษกับลูกน้องบางคนจึงต้องมีการกำชับกำชากันบ้าง อย่าปล่อยให้เกิดเป็นเรื่องเป็นราวหรือท้อล์คอ๊อฟเดอะทาวน์หรืออื้ออึงในที่ทำงาน สร้างความเสียหายให้แก่คนที่เป็นหัวหน้า
เห็นไหมละครับ การเป็นหัวหน้าที่ดีไม่ให้มีปัญหาในระหว่างลูกน้องไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จะทำอะไรหรือวางตัวก็ต้องระมัดระวังบ้าง เพราะลูกน้องอยากเห็นหัวหน้าเป็นของทุกคนไม่ใช่คนใดคนหนึ่งหรือไม่กี่คน ต้องให้ความเมตตาต่อทุกคนที่เป็นลูกน้องโดยเสมอภาคกัน
ถ้าทำได้แน่ละครับ หัวหน้าก็จะกลายเป็นขวัญใจลูกน้องอย่างแน่นอน เชื่อผมเถอะ