แจ็คผู้กลายมาเป็นยักษ์ : เสน่ห์ ศรีสุวรรณ

columnist

ท่านคงจะจำเทพนิยายเรื่อง “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” ซึ่งเล่าขานกันมาถึงเรื่องราวของเด็กชายแจ็คที่ไปซื้อเมล็ดถั่ววิเศษจากชายแปลกหน้าและไปโยนทิ้งหลังบ้านจนงอกและโตเป็นต้นถั่วขนาดใหญ่สูงขึ้นไปบนฟ้า

ท่านคงจะจำเทพนิยายเรื่อง “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” ซึ่งเล่าขานกันมาถึงเรื่องราวของเด็กชายแจ็คที่ไปซื้อเมล็ดถั่ววิเศษจากชายแปลกหน้าและไปโยนทิ้งหลังบ้านจนงอกและโตเป็นต้นถั่วขนาดใหญ่สูงขึ้นไปบนฟ้า แจ็คปีนต้นถั่วขึ้นไปบนฟ้าและแอบเข้าไปในบ้านของยักษ์ขโมยของมีค่า พอยักษ์รู้ตัวโกรธจัดออกตามล่า แจ็คปีนต้นถั่วหนี ยักษ์รีบปีนตามลงมา แจ็คลงมาถึงพื้นดินก่อนจึงแล้วรีบเอาขวานฟันต้นถั่วจนขาด ทำให้ยักษ์ตกลงมาตาย อันเป็นที่มาของเรื่องแจ็คผู้ฆ่ายักษ์

เรื่องราว “แจ็คผู้กลายมาเป็นยักษ์”ที่ผมเขียนนี้ไม่ใช่เด็กชายแจ็คแต่เป็นนายแจ็ค หม่า(Jack Ma) อายุ 50 ปี ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทอาลีบาบา(Alibaba) ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ(e-Commerce)ขนาดใหญ่ของจีนที่ไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์คสหรัฐอเมริกาประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักทั่วโลก จนทำให้นายแจ็ค หม่า รวยที่สุดในประเทศจีน และรวยเป็นอันดับที่ 33 ของโลก

นายแจ็ค หม่า เป็นคนจีนเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะที่ดีนักในเมืองหางโจว ตอนเด็กเขาสนใจและรักที่ศึกษาเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก จึงเรียนรู้และฝึกฝนตนเองด้วยการพูดคุยหรือเสนอตัวเป็นไกด์ให้กับฝรั่งต่างชาติ จนทำให้นายแจ็ค หม่า เป็นคนจีนที่เก่งภาษาอังกฤษและยึดอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนกว่า 5 ปีโดยได้รับค่าตอบแทนเพียงแค่เดือนละ 500 บาท แต่ด้วยภาษาอังกฤษนี่เองทำให้เขามีเพื่อนฝูงมีคนรู้จักเป็นฝรั่งต่างชาติ สร้างโอกาสในการเชื่อมโยงไปนอกประเทศจีน

ครั้งหนึ่งเขาได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่สหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันก็มองหาลู่ทางในการทำธุรกิจไปด้วย เขาเองยังไม่รู้จักอินเตอร์เน็ต แต่ที่อเมริกามีความทันสมัยด้านเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต เขาได้ขอให้เพื่อนลองค้นหาสินค้าเป็นภาษาจีนปรากฏว่าไม่พบการค้นหานั้น เขายังได้ทดลองค้นหาคำว่า Beer และพบว่าไม่มีการค้นหาใดที่มาจากประเทศจีน ทำให้เขามองช่องว่างทางธุรกิจที่มหาศาล ในปี 1995 เขาได้ก่อตั้งบริษัทไชน่าเพจเจสซึ่งเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตรายแรกของจีน  ปี 1999 เขาและกลุ่มเพื่อนได้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศจีนเป็นหลัก ต่อมาก็ขยายธุรกิจเปิดเว็บไซต์ให้คนทั่วไปมาลงขายสินค้าได้ และเปิดบริษัทย่อยอีกหลายบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีอีเล็กโทรนิกส์

แจ็ค หม่า หาพันธมิตรและดำเนินการนำเอาธุรกิจอาลีบาบาจากประเทศจีนเข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์คสหรัฐอเมริกาในปี 2014 สร้างความฮือฮาในวงการธุรกิจเป็นอย่างมาก มูลค่าธุรกิจของอาลีบาบาแซงหน้าเจ้าตลาดอีคอมเมิร์ซอย่าง อเมซอนดอทคอม และอีเบย์ อาลีบาบาเป็นธุรกิจการค้าออนไลน์เป็นเว็บไซต์ขายส่งขนาดใหญ่ ที่สุดในโลก เป็นศูนย์รวมโรงงานผู้ผลิตในประเทศจีนที่ลูกค้าทั่วโลกสามารถเข้าถึงและสั่งซื้อสินค้าจากประเทศจีนซึ่งเป็นฐานผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ของโลกในรูปแบบ B2B(Business to Business) อาลีบาบายังเป็นศูนย์การการขนส่งและกระจายสินค้าไปทั่วโลกอีกด้วย

ก่อนหน้านั้นแทบไม่มีใครรู้จักแจ็ค หม่า ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ไม่ได้อยู่ในทำเนียบนักธุรกิจระดับโลก ยิ่งเมื่อได้เห็นหน้าตา โหงวเฮ้งและบุคลิกลักษณะของเขาแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นนักธุรกิจผู้มากความสามารถ มีวิสัยทัศน์ มีความอดทนมุ่งมั่น มีหลักการดำเนินชีวิตจนก้าวไปสู่ความสำเร็จระดับโลก

แจ็ค หม่า มีความสามารถในการพูดการนำเสนอและสำเนียงภาษาอังกฤษดี ผมได้ดูคลิปวีดีโอที่เขาไปพูดที่เยอรมันต่อหน้านายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลและแขกผู้มีเกียรติจำนวนมาก แม้บุคลิกภาพการปรากฏตัวจะไม่ค่อยโดดเด่นนักแต่พูดได้ดีมาก วิสัยทัศน์ชัดเจน มี มุมมองและทัศนคติดีมาก กระชับและไม่ใช้เวลายาวนานเกินไป

เขาเล่าว่าเมื่อสิบสี่ปีทีแล้วมายุโรปขอเช่าบูทในงานแฟร์เพื่อขายสินค้าจากประเทศจีนมายังยุโรป ยากและใช้เวลาอยู่นานกว่าจะหาบูทได้ บูทที่ได้ก็เป็นบูทเล็กๆยอดขายไม่ดี งานแฟร์ประสบความสำเร็จแต่ขายไม่ดีเพราะลูกค้าหาบูทไม่เจอ อีกแปดปีต่อมาเขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับหาทางช่วยให้บูทเหล่านั้นขายสินค้าออนไลน์ซึ่งก็คือการแนะนำอาลีบาบานั่นเอง และในวันนี้เขากลับมาอีกครั้งเพื่อจะบอกว่าสิ่งที่ขาดหายไปของธุรกิจอินเตอร์เน็ตคืออะไรและอะไรคือสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์เติบโตและยั่งยืน

มุมองของแจ็ค หม่า น่าสนใจมาก เขามองว่าในโลกยุคใหม่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วมาก ธุรกิจต้องเปลี่ยน B2C หรือ Business to Consumer มาเป็น C2B คือ Consumer to Business หมายถึงจากผู้บริโภคสู่ธุรกิจ โลกยุคใหม่จะเชื่อมต่อกันด้วยข้อมูล(Data)  เครื่องจักรผลิตสินค้าไม่ใช่แค่รับการสนับสนุนด้วยไฟฟ้าและน้ำมันแต่เครื่องจักรต้องได้รับการสนับสนุนด้วยข้อมูลเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โลกยุคนี้จึงเป็น D Economy หมายถึง Data Economy หมายถึงยุคเศรษฐกิจที่ใช้ข้อมูล

แจ็ค หม่า สรุปว่าธุรกิจวันนี้ไม่ได้เน้นที่ขนาด การรวมศูนย์ การมีอำนาจ แต่ต้องเน้นในสิ่งต่อไปนี้

  1. มีความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ (Flexibility)
  2. ใช้ความเป็นมิตร (Use of Friendliness)
  3. ตอบสนองความต้องการเฉพาะ (Customization)

การดำเนินธุรกิจต้องเป็นไปอย่างชาญฉลาด(Wisdom) ใส่ใจ(Care) และรับผิดชอบ(Responsibility) แจ็ค หม่าปิดท้ายการพูดว่าอาลีบาบาไม่ใช่แค่การเชื่อมต่อธุรกิจจากประเทศจีนมายังยุโรปเยอรมันแต่ยังเชื่อมต่อธุรกิจของยุโรปเยอรมันไปยังประเทศจีนอีกด้วย

จุดเริ่มต้นธุรกิจของแจ็ค หม่า มาจากศูนย์ เขาผ่านอุปสรรคมามากมายนานัปการ ธุรกิจแรกที่สร้างเว็บไซต์ ไชน่าเพจเจสไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก  เรียกว่าเริ่มต้นไม่หรูหราแต่พยายามเดินตามฝัน  ชื่อ “อาลีบาบา” เป็นชื่อที่เขาตั้งเองด้วยเหตุผลที่เรียกง่ายออกเสียงง่ายสำหรับคนทุกชาติทุกภาษา เขาเป็นคนที่พร้อมยอมรับความผิดพลาดและแก้ไข ความผิดพลาดครั้งสำคัญในปี 2002 ของเขาก็คือการขยายธุรกิจที่เร็วเกินไปประสบการขาดทุนจนเงินสดที่มีอยู่แทบไม่พอจ่ายเงินเดือนพนักงานในอีกปีสองปีข้างหน้าเขาจึงจำเป็นต้องตัดสินใจปลดพนักงานไปเป็นจำนวนมากและปรับแผนธุรกิจใหม่ให้กลับเข้มแข็งประสบความสำเร็จ

แจ็ค หม่า ได้พูดให้นักศึกษามหาวิทยาลัยฮ่องกงที่จบการศึกษาว่า บุคคลที่ประสบความสำเร็จต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญ 3 ประการคือ

  1. Persistent คือยืนหยัดต่อตนเอง ยืนหยัดมุ่งมั่นเดินตามฝัน ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาอุปสรรคใดๆ
  2. Always be Optimistic คือมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ พร้อมที่จะทำงานหนักและหนักกว่าเพื่อวันข้างหน้าที่สวยงาม
  3. Able to Change คือสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ เป็นคุณสมบัติที่สำคัญมาก ต้องทำให้ได้เพราะชีวิตต้องเปลี่ยนแปลง

        จากนักเรียนที่ไม่เก่งคณิตศาสตร์แต่กลับสนใจที่จะเรียนและฝึกฝนภาษาอังกฤษจนเก่งโดดเด่นกว่าคนจีนโดยทั่วไป  ภาษาอังกฤษเปรียบเหมือนเมล็ดถั่ววิเศษที่เด็กชายแจ็คได้รับจากชายแปลกหน้าในเรื่อง “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” แจ็ค หม่า ปลูกเมล็ดถั่ววิเศษคือภาษาอังกฤษจนงอกงามเติบโตต่อยอดให้เขาออกจากประเทศจีนไปแสวงหาโอกาสอันยิ่งใหญ่ตามฝันถึงอเมริกา  ยุโรป และทั่วโลก เขาเกิดความคิดเห็นช่องทางและสร้างอาลีบาบา เว็บไซต์ขายส่งแบบ B2B ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วันนี้อาลีบาบาที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คสหรัฐอเมริกา มีสมาชิกกว่า 30 ล้านคน ซื้อขายได้กว่า 200 ประเทศทั่วโลก มีสินค้าที่ซื้อขายกันประมาณ 6,000 รายการ ทำให้นายแจ็ค หม่า ผู้ปลูกต้นถั่ววิเศษภาษาอังกฤษสร้างเรื่องราวที่กล่าวขานเป็นต้นแบบความสำเร็จของโลกวันนี้ว่า “แจ็คผู้กลายมาเป็นยักษ์”

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ