ปัจจุบัน “ขยะเทกอง” สร้างปัญหาทั้งด้านมลพิษ ด้านสิ่งแวดล้อม และส่งกลิ่นตลบอบอวลให้กับคนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ถ้าเราไปดูโมเดลการจัดการขยะในต่างประเทศที่เจริญแล้ว เราจะพบว่า… แทบไม่เห็นขยะเทกองเลย เนื่องจากขยะถูกกำจัดไปหมด และหนึ่งในวิธีการกำจัดก็คือ เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า
โรงเผาขยะ เปลี่ยนขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า ในประเทศไทยจึงเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ และจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เหมือนกับในต่างประเทศ เราจะมาดูหุ้น TPIPP หุ้นโรงไฟฟ้าขยะตัวนี้ว่าน่าสนใจหรือไม่กันในบทความนี้ครับ
โรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ ถือเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจและจะกลายเป็น “เมกะเทรนด์” ในอนาคตได้อย่างไม่ต้องสงสัย โดยการประกอบกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะนั้นต้องมีการรวบรวมขยะอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มีวัตถุดิบป้อนเข้าสู่โรงงานเพื่อแปรสภาพจากขยะเป็นเชื้อเพลิงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีพลังงานทดแทนอีกหนึ่งชนิดที่น่าจับตามองเช่นกันคือ พลังงานความร้อนทิ้งจากกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม โดยบทความนี้ขอแนะนำหุ้น IPO น้องใหม่ TPIPP โรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะซึ่งมีความน่าสนใจทีเดียว … ติดตามกันเลย
ธุรกิจของ TPIPP
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP มีธุรกิจหลักคือ ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ (NGV) โดยการประกอบธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคนั้น บริษัทฯ มุ่งเน้นการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะและพลังงานความร้อนทิ้ง เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. และ บมจ. ทีพีไอ โพลีน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้ดำเนินการสถานประกอบการผลิตเชื้อเพลิง RDF ย่อมาจาก Refuse-Derived Fuel ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งในการรับขยะชุมชนเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นจำนวน 4,000 ตันต่อวัน สามารถผลิตเป็นเชื้อเพลิง RDF ได้เป็นจำนวน 2,000 ตันต่อวัน เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิง RDF โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน และโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินและพลังงานเชื้อเพลิง RDF รวมทั้งสิ้น 3 โรง
สถานประกอบการผลิตเชื้อเพลิง RDF ของ TPIPP จะนำขยะชุมชน (Municipal Solid Waste หรือ MSW) และขยะจากหลุมฝังกลบจากแหล่งต่างๆ มาผ่านกระบวนการคัดแยก และแปรรูปให้เป็นเชื้อเพลิง RDF ซึ่งเชื้อเพลิง RDF ที่ผลิตได้จะมีค่าความร้อนเฉลี่ยสูงกว่า 3,500 กิโลแคลอรี่/กิโลกรัม จากนั้นโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะจะนำเชื้อเพลิง RDF ที่ผลิตได้ไปเผาเพื่อให้ความร้อนแก่หม้อต้มไอน้ำ ซึ่งไอน้ำที่ผลิตได้จะถูกนำไปปั่นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แล้วขายไฟให้กับ กฟผ. และบางส่วนขายให้กับ บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพื่อนำมาใช้ในโรงงานผลิตปูนซีเมนต์
โรงไฟฟ้าของ TPIPP
ปัจจุบัน โรงไฟฟ้าของ TPIPP มีกำลังการผลิตติดตั้งถึง 150 MW โดยเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ รวม 80 MW จัดเป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะรายใหญ่ที่สุดของประเทศ และอยู่ระหว่างการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกเป็น 440 MW ภายในสิ้นปี 2560 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตติดตั้งรวมของโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะเพิ่มเป็น 180 MW ทั้งนี้ ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะทั้งหมดได้รับการสนับสนุนค่า Adder จากภาครัฐในอัตรา 3.50 บาทต่อหน่วย บวกกับค่าไฟฟื้นฐานที่ 3 บาทต่อหน่วยรวมเป็น 6 บาทกกว่าต่อหน่วย
อย่างไรก็ตามโรงไฟฟ้าแห่งใหม่จะเปลี่ยนจากระบบ adder เป็นระบบ FIT หรือ Feed-in Tariff ซึ่งจะมีค่าไฟคงที่แบบ Flat Rate โดยการขายไฟฟ้าจะได้ค่าไฟเท่ากันทุกปี ขึ้นอยู่กับนโยบายของการไฟฟ้าที่จะรับซื้อไป โดยเบื้องต้นจะจ่ายค่าไฟเท่ากันทุกปีติดต่อตลอดอายุใบอนุญาต (ประมาณ 25 ปี) ที่ราว 5 บาทกว่าต่อหน่วย ซึ่งจะน้อยกว่าระบบ adder แต่จะมีความมั่นคงกว่าในระยะยาว
อนาคตโรงไฟฟ้า TPIPP
ในอนาคตการจัดการขยะจะเป็นวาระสำคัญสำหรับชุมชนเมืองและเป็นวาระแห่งชาติ ผมเข้าใจว่าโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะมีโอกาสที่จะเป็น “เมกะเทรนด์” ค่อนข้างสูงมาก ข้อคิดเห็นคือ การทำโรงไฟฟ้าขยะนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงที่ทำจากขยะ มีการคัดแยกขยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเชื้อเพลิง ดังนั้น ไม่ใช่ว่าใครคิดจะทำก็ทำได้
บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ดูน่าสนใจในแง่ของการทำโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจากขยะชุมชน ซึ่งทาง TPIPP มีการจัดการขยะชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดให้รถขนขยะสามารถนำขยะมาทิ้งในพื้นที่โรงไฟฟ้าได้อย่างสะดวก ซึ่งเป็น “ปัจจัยสำคัญ” ที่จะทำให้โรงไฟฟ้ามีแหล่งวัตถุดิบป้อนเข้ามาตลอดเวลา และทำให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง สร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
ข้อสรุปของการลงทุนในหุ้น TPIPP
สำหรับหุ้น TPIPP มีความโดดเด่นในการสร้างรายได้จากโรงไฟฟ้า ทั้งพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) พลังงานความร้อนทิ้ง และพลังงานถ่านหิน โดยรายได้จากโรงไฟฟ้าค่อนข้างมีความมั่นคงและสม่ำเสมอ ส่วนรายได้จากสถานีบริการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (NGV) ก็มีการเติบโตในระดับที่ต้องติดตาม แต่อาจไม่ได้ก้าวกระโดดเท่ากับโรงไฟฟ้าที่มีแผนการลงทุนที่ชัดเจน สำหรับผมคงให้ข้อมูลเชิงพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนให้กับผู้ที่สนใจ ความเห็นของผมก็คือ “น่าสนใจ” แต่ก็ต้องคอยติดตามต่อไปครับ เพราะผมยังคงเชื่อว่า หุ้นพลังงานทดแทน จะกลายเป็น Big Player ในอนาคต ทดแทนพลังงานยุคเก่าบางส่วน หรืออาจจะมากกว่าที่คาดคิดก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ
อย่างไรก็ตามการลงทุนหุ้น นักลงทุนต้องดูให้ออกว่าหุ้นที่เราลงทุนแม้จะดูดีมีอนาคต แต่มันแพงเกินไปหรือไม่ สำหรับผมแล้วหุ้นโรงไฟฟ้าขยะถ้ามีอนาคตดี ผมก็ยอมจ่ายแพงหน่อย คือให้ ฟรีเมี่ยมกับราคาหุ้นบ้าง แต่จะไม่ยอมจ่ายแพงกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากจนเกินเหตุอย่างแน่นอนครับ