การเดินทางสมัยใหม่นั้นแตกต่างจากในอดีตมาก สมัยก่อนใครขึ้นเครื่องบินได้ถือว่าหรูหรา แต่มาในปัจจุบัน “ใครๆ ก็บินได้” ธุรกิจสายการบินยุคนี้เติบโตรวดเร็วมาก และธุรกิจที่มีความจำเป็นสำหรับสนามบินก็เริ่มเติบโตขึ้นอย่างน่าจับตามองตามไปด้วย
หุ้นรถเช่า จึงกลายมาเป็น เมกะเทรนด์ที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อเราลงจากเครื่องจะเดินทางต่อ ถ้าต้องการความสะดวกสบายก็หนีไม่พ้นรถเช่าที่เราต้องเรียกใช้บริการ โดยเฉพาะคนที่เดินทางไปทำธุรกิจต่างจังหวัด เป็นเซลล์แมน หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวก็ต้องใช้รถเช่าทั้งสิ้น วันนี้เราจะมาเจาะหุ้นรถเช่ากันครับ หุ้นASAP
หุ้นASAP
หุ้นASAP หรือ บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ asap ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร ด้วยวิสัยทัศน์ในการประกอบธุรกิจคือ “ให้บริการรถเช่าที่ครอบคลุมทุก ๆ ด้าน ด้วยมาตรฐานการบริการเหนือความประทับใจ”
ปัจจุบันบริษัทฯ มีธุรกิจให้เช่ารถยนต์ 3 รูปแบบ ได้แก่
- บริการรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจร (Operating Lease) มุ่งเน้นให้บริการแก่ลูกค้านิติบุคคล โดยส่วนใหญ่มีการทำสัญญาในระยะเวลา 4-5 ปี
- บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น มุ่งเน้นให้บริการแก่ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา โดยมีเคาน์เตอร์ให้บริการที่สนามบินทั่วประเทศ ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ
- บริการรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ (Limousine) มุ่งเน้นการให้เช่ารถยนต์ระยะยาวแก่ลูกค้านิติบุคคลที่ต้องการเช่ารถยนต์พร้อมบริการคนขับรถ และการบริหารจัดการรถและคนขับ
จาก Company Profile ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ผมนึกถึงเทรนด์ของการใช้บริการ Outsourcing ของบริษัทใหญ่ๆ ทั้งหลาย ที่มักจะมอบหมายส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานให้แก่บริษัทที่ให้บริการซึ่งมักจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานนั้นๆ แล้วตัวเองจะได้ Focus กับธุรกิจหลักของตน ซึ่งรถเช่าก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการให้บริการ Outsource ซึ่งบริษัทที่ใช้บริการจะมอบหมายการบริหารจัดการรถยนต์ (Fleet Management) ให้กับบริษัทที่ให้บริการ
นอกจากนี้ ภาพของธุรกิจรถเช่าที่มีจุดเช่าตามสนามบิน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางโดยเครื่องบินมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และจะมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเมื่อมีรถเช่าคอยให้บริการ ไม่ว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยว ไปทำธุรกิจ หรือไปเยี่ยมผู้คน ธุรกิจนี้ถือว่าตอบโจทย์อย่างยิ่งเลยทีเดียว
(ภาพแสดงโครงสร้างรายได้ของ asap ที่มา : www.sec.or.th)
โครงสร้างรายได้ของ asap
รายได้ของ asap เติบโตขึ้นทุกปีจากปี 2556 ที่ 685.88 ล้านบาท มาถึงปี 2558 ที่ 1,086.09 ล้านบาท โดยเติบโตขึ้นมากกว่า 50% ภายใน 3 ปี (เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.52 และร้อยละ 29.24 ต่อปี ตามลำดับ) ถือว่าทำได้ดีทีเดียวครับ และล่าสุดในงวด 9 เดือนของปี 2559 ทำได้ 1,035.61 ล้านบาท อีกทั้งมีแววเติบโตต่อเนื่องด้วยปริมาณรถยนต์ทั้งหมดกว่า 7,360 คัน (ณ วันที่ 30 กันยายน 2559)
เมื่อรายได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ ต้องบอกว่า “เข้าตากรรมการ” โดยเฉพาะนักลงทุนหุ้นโตเร็วหรือ Growth Investor นั่นอาจเป็นเพราะเทรนด์การ outsourcing ของบริษัทชั้นนำทั้งหลายที่เปลี่ยนจากการซื้อรถมาเป็นการเช่าแทน และการเดินทางในยุคนี้เติบโตตามจำนวนนักเดินทางภายในประเทศ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ถือว่าหุ้นตัวนี้อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตก็ว่าได้
(ภาพแสดงงบการเงินของ asap ที่มา : www.sec.or.th)
ส่องงบการเงินของบริษัทฯ
เมื่อมาดูงบการเงิน ผมพบว่า asap มีฐานะทางการเงินที่แข็งแรง มีสินทรัพย์รวม 5,430.98 ล้านบาทในงบการเงินงวดล่าสุด โดยในส่วนของสินทรัพย์ก็มีการเติบโตขึ้นทุกปี ตามการเติบโตของจำนวนรถยนต์ให้เช่าของบริษัท ซึ่งบ่งบอกถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกิจการ
ในส่วนหนี้สินดูเหมือนจะโตตามสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นเพราะต้องซื้อรถยนต์เพิ่มเพื่อนำมาประกอบกิจการ ซึ่งในงวดล่าสุดหนี้สินรวมของบริษัทฯ อยู่ราว 4,781.57 ล้านบาท ถ้าเทียบกับสินทรัพย์ที่มีก็ถือว่าสมดุล โดยเมื่อนำสินทรัพย์มาหักออกด้วยหนี้สินจะได้ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 649.41 ล้านบาท ทั้งนี้ หนี้สินส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นหนี้สินภายใต้สัญญาเช่าการเงินซึ่งเท่ากับ 3,902.24 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 82 ของหนี้สินทั้งหมดของบริษัท โดยบริษัทใช้หนี้สินภายใต้สัญญาเช่าการเงินในการจัดซื้อรถยนต์ตามความต้องการของลูกค้า ดังนั้น หนี้สินของบริษัทที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงจึงไม่น่ากังวลแต่อย่างใด เนื่องจากหนี้สินดังกล่าวเป็นหนี้สินที่ก่อให้เกิดรายได้
ข้อสรุปการลงทุนหุ้น asap
สำหรับหุ้นตัวนี้ ผมถือว่าเป็น หุ้นเติบโต หรือ Growth Stock ที่กำลังโตอย่างรวดเร็วตามเทรนด์การ outsourcing และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่สำคัญธุรกิจนี้เป็นธุรกิจเก็บเงินสด อย่างไรก็ตามช่วงเติบโตก็ต้องใช้เงินลงทุนอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้มีหนี้สินต่อทุนสูง และนั่นคือสิ่งที่นักลงทุนควรให้ความระมัดระวังเอาไว้บ้าง
ในเรื่องของคู่แข่งก็ควรให้ความสำคัญ แต่หากธุรกิจมีสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ก็จะสามารถมัดใจลูกค้าและยังมีแนวโน้มเติบโตไปได้เรื่อยๆ ผมเข้าใจว่าหุ้น asap น่าจะเติบโตได้ต่อ แต่จะไปได้ไกลแค่ไหนนั้น เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ
(นายแว่นธรรมดา)