ในยามที่ตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น แต่ที่น่าแปลกก็คือ ยังมีหุ้นหลายตัวนอกจากจะไม่ขึ้นตามตลาด บางตัวกลับลงเสียด้วยซ้ำ หุ้นชาเขียวตัวหนึ่งที่ผมกำลังติดตามอยู่ เมื่อสามปีที่แล้วตอน IPO ใหม่ๆ ราคาสูงมาก เมื่อเทียบกับการเติบโตในอนาคตแล้วตลาดให้คุณค่าค่อนข้างสูงในสายตาผม…
สำหรับตลาดชาเขียวนั้น ในประเทศไทยอาจเรียกว่าเข้าข่าย “อิ่มตัว” แต่จะมีพีคของการขายในช่วงหน้าร้อน ซึ่งบ้านเราก็แทบจะร้อนทั้งปี นอกจากนั้น “หมัดเด็ด” ของกิจการก็คือ การทำตลาดแบบสุดขั้ว จนบางครั้่งหลายคนเปรียบเปรยหุ้นตัวนี้ว่าเป็น “หุ้นหวยชาเขียว” คือ ไม่ได้ตั้งใจขายชา แต่จะขายโปรโมทชิงโชคเสียมากกว่า…
สถานการณ์ในปัจจุบันของหุ้นชาเขียวตัวนี้ ราคาถูก discount ลงมาค่อนข้างมาก… ทำให้ผมเริ่มสนใจ และลองเข้าไปเจาะดูว่าเจ้าของกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อดูตัวเลขคร่าวๆ ก็พบว่า กำไรต่อหุ้นนั้นลดลง เนื่องจากหุ้นตัวนี้มีการออกไปบุกเบิกตลาดใหม่ ในย่านอาเซียน ณ.ประเทศอินโดนีเซีย นั่นเอง
ตลาดเครื่องดื่มอินโดนีเซีย ถือว่าเป็นตลาดใหญ่ แต่เรื่องของการก็อปปี้ความสำเร็จ ต้องบอกว่าไม่ง่ายอย่างที่คิด … ปัจจุบันยังใช้วิธีผลิตจากประเทศไทยแล้วส่งไปจำหน่าย หรือไม่ก็จ้างผู้ผลิตท้องถิ่นผลิตให้ ที่ต้องทำแบบนี้เนื่องจากยอดขายยังไม่เกิด การประหยัดต่อขนาด หรือ EOS (Economic of Scale) มากพอที่จะสร้างโรงงานเอง
คงต้องติดตามต่อไปว่า หุ้นชาเขียว ยอดนิยมตัวนี้จะกลับมาได้หรือไม่ … ว่าที่จริงก็เหมือนเราซื้อหวย แล้วแทงว่าการลงทุนครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ถ้าแทงถูกเราก็มีโอกาสรวยตามเจ้าของ แต่ถ้าแทงผิดเราก็อาจจะเจ็บตัวไปตามระเบียบครับ
ขอบคุณภาพประกอบจาก www.set.or.th และบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ยอดขายชาเขียวในประเทศไทยเริ่มทรงตัว แต่ก็ยังมีการเติบโตสะสมในระยะยาวกว่า 13.21% เป็นไปได้ว่าตลาดชาเขียวในประเทศไทยเริ่ม “อิ่มตัว” ผู้ประกอบการคงต้องออกไปหาพื้นที่ใหม่ๆ หรือสร้างนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นตลาด
ขอบคุณภาพประกอบจาก www.set.or.th และบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ยอดขายของ Ichi โตค่อนข้างน้อยมาก แทบไม่เติบโตเลยในช่วงสามปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สำหรับหุ้นชาเขียวนั้น ยังต้องพิสูจน์อนาคตอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนครั้งใหม่ยังต่างประเทศ หากประสบความสำเร็จเริ่มมียอดขายเกินกว่า 1000 ล้าน เจ้าของก็จะเริ่มไปตั้งโรงงานผลิตทันที … และเป้าหมายต่อไปก็คือ ทำยอดขายให้ได้ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งมันมากกว่ายอดขายในประเทศไทย ณ.ตอนนี้เสียอีก!!
ข้อสรุปของการลงทุนในหุ้นชาเขียว
ที่ผ่านมาตลาดชาเขียวมีการแข็งขันกันสูง โดยเฉพาะชาเขียวประเภท “จับเลี้ยง” ที่แข่งกันลดราคา เคยเหลือเพียงขวดละ 10 บาท ทำให้ผลกำไรตกต่ำลงอย่างมาก แต่เมื่อมรสุมราคาผ่านพ้นไป เราอาจได้เห็นกำไรฟื้นตัวบ้าง แต่คงไม่ได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำโปรโมชั่นในสมัยนี้มีความยากขึ้น และซับซ้อนขึ้น ใครคิดจะลงทุนหุ้นตัวนี้ค่อยๆ ศึกษา และรอให้ราคาเหมาะสมกว่านี้ก่อนคิดว่าคงไม่ช้าจนเกินไปอย่างแน่นอนครับ
