การพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ : ดร.พนม ปีย์เจริญ

อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ

การพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ ก็เพื่อที่จะ “ ขายสินค้าใหม่ในตลาดเดิม ” ด้วนการนำสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว มาปรับปรุงพัฒนาเสียใหม่

การพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์

[ Product  Development ]

$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$

การพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ ก็เพื่อที่จะ “ ขายสินค้าใหม่ในตลาดเดิม ” ด้วนการนำสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว มาปรับปรุงพัฒนาเสียใหม่ ด้วยแนวทางดังนี้

  1. สินค้าใหม่ที่ปรับปรุงจากสินค้าดั้งเดิม

เป็นการนำสินค้าเดิมของเราที่มี มาปรับปรุงพัฒนารูปร่างหน้าตาเสียใหม่รสชาติใหม่  กลิ่นใหม่ แพคเกจจิ้งใหม่ หรือแม้กระทั่งรูปทรงใหม่ ฯลฯ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงและแตกต่างจากเดิมที่ลูกค้ารู้สึกจำเจและคุ้นเคยมาเป็นเวลานาน อันจะเป็นการเปิดช่องทางให้กลุ่มลูกค้า กลุ่มใหม่ๆ หันมาสนใจสินค้าของเราอีกทางหนึ่งด้วย

  1. ใส่ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ลงไปในสินค้าเดิมนี่จึงเป็นเหตุผลว่า บริษัทใหญ่ๆ จึงต้องมีฝ่าย “Research and Development ” หรือ R & D ทำหน้าที่ในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้ล้ำนำสมัยอยู่เสมอเพื่อสร้างความแตกต่าง

การสร้างความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ลงไปในสินค้าเดิมจึงต้องดูให้เหมาะสมและสอดคล้องกันกับสินค้าและบริการของเราด้วย อย่าให้โดดจนเกินไปจนลูกค้ารับไม่ได้เช่น ถ้าเป็นน้ำนมถั่วเหลือง เราพัฒนาจากรสดั้งเดิมให้มีรสงาดำ รสช็อคโกแล็ต รสใบเตย รสวานิลา ฯลฯ อันนี้ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาไปในทางที่ลูกค้าพอรับได้ แต่อย่าถึงพัฒนาไปถึงนมถั่วเหลืองรสแกงเขียวหวาน รสต้มยำกุ้ง รสผัดไทย อันนี้ดูจะโดดเกินไปกว่าลูกค้าจะรับความแตกต่างของสินค้าเราได้

  1. การจับมือกเป็นพันธมิตรใหม่ๆกับบริษัทอื่น

เป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจตัวเอง เปิดช่องทางการตลาดที่กว้างและเร็วออกไป แทนที่จะให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ของเราอยู่ในวงแคบๆ

ด้วยการใช้หลัก WIN  WIN   ต่างคนต่างได้ สมประโยชน์ ซึ่งกันและกัน ด้วยการเปิดใจกว้างๆ ยอมรับซึ่งกันและกันว่า “เราจะมีส่วนที่เราได้และส่วนที่เราเสียไปบ้าง ” เพราะมันคือการแบ่งสรรปันส่วนกัน

  1. ปรับกลยุทธทางการตลาดใหม่ๆ

อย่ายอมให้ธุรกิจเรานิ่งอยู่กับที่นานเกินไปเพราะการนิ่งนานเกินไปคือการไม่เติบโต เสมือนแช่แข็งตัวเองดังนั้นจึงต้องมีการปรับกลยุทธใหม่ๆ ในด้านต่างๆ ที่เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา อาธิ

4.1 ปรับรูปร่างหน้าตาและแพ็กเกจใหม่

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ลูกค้าก็เปลี่ยน เราจึงต้องปรับให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป  การออกแบบแพ็กเกจจิ้ง ใหม่ทำให้สะดุดตาลูกค้าใหม่และเพิ่มความตื่นตาตื่นใจให้กับลูกค้าเก่า  และนั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้เราดึงความสนใจลูกค้าที่เคยคิดจะเปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าของคู่แข่งก็ได้ เพราะรู้สึกจำเจกับสินค้าเรามานานแล้ว

4.2 ปรับสูตรใหม่

ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้ลูกค้าสนใจมากยิ่งขึ้นเพราะเมื่อความทันสมัยเปลี่ยน เทคโนโลยี่เปลี่ยน วิทยาการมีการพัฒนา ฯลฯ ย่อมมีสิ่งที่ค้นพบใหม่ๆ เกิดขึ้น เพราะฉนั้นสูตรใหม่ๆ จึงเป็นหนทางแห่งการดึงความสนใจให้เกิดขึ้นกับลูกค้า และแซงหน้าคู่แข่งไปอีกมิติหนึ่งถึงความก้าวหน้าของผลิตภัณฑ์ และสินค้าของเรา

และถึงแม้เราจะรักษาสูตรดั้งเดิมเอาไว้ การพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์จากสูตรดั้งเดิมขึ้นอีกตัวหนึ่งก็เป็นการเปิดช่องทางการขายใหม่ๆ ให้กับตลาดของเรามิใช่หรือ

4.3 ปรับให้มีสไตล์ใหม่ๆ

ต้องพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเราให้ดูดีมีสไตล์ ดูทันสมัยสอดรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดจนสอดคล้องกับเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ในแต่ละยุคสมัย

เพราะการที่เราพัฒนาไม่หยุดนิ่ง ยังเป็นการแสดงศักยภาพให้ลูกค้าและคู่แข่งได้เห็นว่า องค์กรของเราก้าวนำหน้าคู่แข่งหนึ่งก้าวเสมอ

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ต้องอาศัยข้อมูลเป็นสำคัญว่าสไตล์ของแต่ละยุคสมัย กำลังไปในทิศทางใด เช่น ถ้าในยุคนั้นผู้คนหันมาสนใจสุขภาพ สินค้าเราก็ต้องปรับสไตล์ให้ขานรับกับเรื่องราวของสุภาพ แต่ถ้ายุคสมัยนั้นหันมาสนใจสิ่งแวดล้อม สินค้าและผลิตภัณฑ์เรา ก็ต้องหันมาสนับสนุนและตอบสนองการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกัน  อาจจะเป็นสินค้าที่ได้มาจากธรรมชาติหรือเป็นสินค้าที่ที่มีกระบวนการผลิตที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม หรือ เป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ดูแลรักษาด้วยวิธีธรรมชาติเป็นต้น

4.4 กระบวนการใหม่

เป็นการปรับกระบวนการใหม่ เพื่อเปิดช่องทางการตลาดใหม่ๆ ที่สร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ ของเรา อาธิ

– กระบวนการผลิตของสินค้าและผลิตภัณฑ์เราให้ลูกค้าได้ทราบถึงความทันสมัย ความสะอาดปลอดภัยช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าและสิ่งแวดล้อมเป็นต้น

– กระบวนการเหล่านี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าอันจะเป็นส่วนสำคัญที่จะนำไปสู่การตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้ง่ายขึ้น

– กระบวนการตลาดและการขาย         เป็นกระบวนการที่เราต้องปรับปรุงให้ทันสมัยสอดคล้องกับโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงและแข่งขันอยู่ตลอดเวลาเพราะคู่แข่งเราน่ากลัวขึ้นทุกวันเราต้องปรับให้รวดเร็วเข้าถึง เข้าใจธรรมชาติของลูกค้าในแต่ละยุค แต่ละสมัย ด้วย  เพราะพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเสมอ

4.5 บริการใหม่ๆ

ธุรกิจเราต้องพุ่งไปสู่จุดสูงที่เป็นเป้าหมายคือ “ ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ ” เพราะฉนั้นการแข่งขันในโลกปัจจุบันและอนาคต ต้องเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพราะลูกค้าเป็นคนตัดสินใจและเป็นคนที่ชี้เป็นชี้ตายให้กับธุรกิจเรา

เพราะฉนั้น ไม่ว่าเทคโนโลยีจะทันสมัยสักแค่ไหน ความพึงพอใจบริการที่

“ดี…เร็ว….ถูก ” ก็ยังเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการอยู่เสมอ  เราจึงต้องคิดพัฒนาการให้บริการที่แตกต่าง จากคู่แข่ง ไปในทางที่ดีกว่า เหนือกว่า ……. เร็วกว่า….คุ้มค่ากว่า จนลูกค้าไม่กล้าปฏิเสธ บริการที่ดี มีคุณาภาพ ของเราไป

4.6 สีสันและภาพลักษณ์ใหม่

“ ลูกค้าเปลี่ยนเรา หรือ เราเปลี่ยนลูกค้า ” นี่คือโจทย์ ที่เราต้องนำมาคิดว่า เราจะพัฒนา ภาพลักษณ์ของเราไปในทิศทางใด เพราะมันเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกอย่างไรกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเรา

ซึ่งเราอาจจะต้องใจกล้าที่ปรับเปลี่ยนสีสันและภาพลักษณ์ของเราให้ดูทันสมัยขึ้นดูหวือหวามากขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ซึ่งสีสันที่ดูหวือหวาและภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัยวันนี้ อาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าดั้งเดิมรู้สึกดีขึ้น ที่อยากให้ตนเองดูมีภาพลักษณ์และรสนิยมที่ดูทันสมัยขึ้นก็เป็นได้

ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมานี้ เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ผู้ประกอบการทั้งหลายต้องหันกลับมาดูธุรกิจของตนเอง โดยเฉพาะด้านสินค้าและผลิตภัณฑ์ ว่ามีสิ่งใดบ้างที่เราสามารถพัฒนาได้ทันทีหรือสิ่งใดที่อาจจะค่อยๆพัฒนาไปทีละขั้น

นั่นหมายถึงว่าไม่ใช่การปรับปรุงพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ของในเวลาเดียวกันทั้งหมด เพราะอาจเป็นการยากเกินไปที่จะทำเช่นนั้น

เพราะฉนั้นท่านจึงต้องพึงพิจารณาอย่างรอบคอบ ว่าสินค้าและผลิตภัณฑ์ของท่านจะเริ่มพัฒนาและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงด้านไหนก่อนป็นลำดับต้นๆ  ก่อนที่คู่แข่งจะแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของท่านไปจนกู่ไม่กลับ

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ