อยากชวนมาทำ “ธุรกิจออนไลน์”….ความท้าทายศักยภาพในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล : ชีพธรรม คำวิเศษณ์

ชีพธรรม คำวิเศษณ์

……โลกของการค้าออนไลน์ยุค 2559 ไม่ต้องใช้เงินลงทุนอะไรมากเลย เปิดไลน์ หรือเปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจ ก็ฟรี ลงโฆษณาบนเฟซบุ๊ก และ Google ก็ใช้เงินเริ่มต้นหลักร้อย แค่ๆ เพิ่มไป วันไหนไม่อยากโฆษณาก็ปิดโฆษณาได้ ค่อยๆ เริ่มสร้าง ถ้าไม่ประสบความสำเร็จหรือเจ๊งไปก็ไม่ได้เสียหายต่อตนเองและครอบครัวมาก

ชีพธรรม คำวิเศษณ์

S__9175148

 

 

 

 

“ลมเปลี่ยนทิศอยู่ทุกวันตลอดเวลา”  วินทร์ เรียววาริน เขียนไว้ไนหนังสือชุดยาเม็ดสีแดง

ผมเพิ่งสั่งซื้อหนังสือจำนวน 80 เล่ม มาจากศูนย์หนังสือจุฬาเพื่อเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับชีวิต และกำลังท้าทายความสามารถของตนเองบางอย่างในโลกของการค้าออนไลน์

*ชมคลิปจากยูทูป ค้นหา รีวิว ซื้อหนังสือใหม่ 80 เล่ม จากศูนย์หนังสือจุฬา

 

วิทยา มาลารัตน์ อ.เสก ผู้เขียนหนังสือเทคนิคการลงโฆษณาด้วยเฟซบุ๊ก 2 และอาจารย์ผู้สอนการลงโฆษณาเฟซบุ๊กอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่เปิดสอนมากว่า 35 รุ่นแล้ว มาพักที่บ้านของผม

เราได้คุยกันเกี่ยวกับการขายของออนไลน์ และการลงโฆษณาด้วยเฟซบุ๊ก

“ทุกวันนี้อยากขายอะไรก็ได้”

ทำได้ง่ายด้วยสมาร์ทโฟนโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว เปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจก็แสนจะง่ายดาย ทำเพียง 3 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ศึกษาวิธีการซื้อโฆษณาด้วยเฟซบุ๊กทำให้คนเห็นสินค้าของเรา ซึ่งจริงๆ แล้วอะไรก็ขายได้ทั้งหมดเหมือนกัน

หนังสือเทคนิคการลงโฆษณา Facebook2

01

 

ชุนตะ นักมวยไทยชาวญี่ปุ่นวัย 19 ปี ท้าทายตัวเองมาซ้อมมวยไทยที่ค่ายแสงมรกต ถ่ายกับผู้เขียน

ค่ายมวยแสงมรกต เป็นค่ายมวยสอนฝรั่งด้วย นักมวยไทย ไฟต์ที่ต่อยช่อง 3 หลายคนซ้อมที่นี่ ตั้งอยู่วัดสิตาราม นางเลิ้ง กรุงเทพฯ วันหนึ่งฝรั่งชาวออสเตรเลีย มาฝึกมวยไทยที่ค่าย แถมมีความคิดอยากชกมวยไทยด้วย

“รู้หรือไม่ว่า การเป็นนักมวยไทยชกมวยไทยได้เงินนิดเดียวนะ ไม่คุ้มความเจ็บปวด ฝึกซ้อมก็หนัก แถมได้ค่าตัวน้อยมาก และชกไปแล้วไม่รู้ว่าจะเป็นนักมวยดังมีชื่อเสียงหรือเปล่า” ผมคุยกับเขาเป็นภาษาไทยนักชกมวยไทยชาวออสเตรเลีย พูดภาษาไทยได้บ้างเพราะมีภรรยาเป็นชาวไทย”

เขาตอบว่า ” ผมมาฝึกมวยไทยเพราะต้องการท้าทายกับตัวเอง ฝึกฝนให้ร่างกายแข็งแกร่ง ฝึกจิตใจให้ไม่กลัวในการไปต่อสู้กับผู้อื่น Challenge Yourself” เขาบอกกับผมอย่างนี้ ซึ่งผมก็เชื่ออย่างนั้นว่าเขาคงไม่ได้หวังเงินทองจากการชกมวยเพียงต่อต้องการจะพิสูจน์อะไรบ้างอย่างกับตัวเอง

02 ฃ ฃ

 

พันธ์พยัคฆ์ ศิษย์จ่าติ๊ก

กลับไปที่น้องๆ นักมวยไทย พันธ์พยัคฆ์ ศิษย์จ่าติ๊ก หนึ่งในยอดมวยไทยชาวจังหวัดสุรินทร์ ที่ซ้อมมวยอยู่ที่ค่ายแสงมรกตเช่นกัน เขาอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น ชกมวยไทยดูแลตัวเองมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เขารับผิดชอบตัวเองชกมวยส่งเสียตัวเองให้ได้เรียนหนังสือและดูแลครอบครัวมาตั้งแต่ตัวเท่ากำปั้น

“ผมมาชกมวยไทยเพราะว่าที่บ้านมีฐานะค่อนข้างลำบากครับพี่” พันธ์พยัคฆ์บอกกับผม

แต่ผมเองต้องการอยากเปลี่ยนทัศนคติการมองโลกในมุมใหม่ทั้งที่อยู่ในโลกใบเดิม

“พันธ์พยัคฆ์ลองคิดดูซิว่า ฝรั่งต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อเรียนมวยไทย แต่เราโชคดีขนาดไหนที่

อยู่ในเมืองไทย ลองคิดว่า การที่เราได้มาซ้อมมวยไทยคือได้ออกกำลังไปด้วย และชกมวยไทยได้เงินด้วย ถือว่าเป็นการออกกำลังดีไหม คิดแบบนี้จะได้มีความสุข ไม่ต้องเอาความคิดเรื่องความยากจนใส่ลงไปในสมอง อีกอย่างเป็นการท้าทายตนเองแบบมาฝรั่งที่มาฝึกมวยไทย”

ผมบอกกับพันธ์พยัคฆ์ไปอย่างนั้น ซึ่งเขาเองก็รับฟังมุมมองใหม่ๆ ในการมองโลกอีกมุม

03

 

หนังสือ จากร้อยสู่ล้านพิชิตธุรกิจออนไลน์

04

อ.วรเศรษฐ์ เมธาอัครพัฒน์ อาจารย์สอนการค้าออนไลน์ อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ซึ่งเพิ่งเขียนหนังสือ จากร้อยสู่ล้านพิชิตธุรกิจออไนลน์  เป็นอีกท่านหนึ่งที่มีลูกศิษย์ลูกหาที่ประสบความสำเร็จจากการขายสินค้าออนไลน์ ในมุมมองของนักการตลาดออนไลน์คือทำการตลาดก่อนแล้วค่อยขายสินค้า ทฤษฏีของอาจารย์วรเศรษฐ์ คือ ขายสินค้าที่เราชอบหรือมีความรู้อยู่แล้ว ทำเว็บไซค์หรือนำสินค้าไปโพสขาย ทำอย่างไรก็ได้ให้คนเห็นสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาในเฟซบุ๊ค หรือการทำให้ติดอันดับใน Google ถ้าหากคนเห็นสินค้าแล้วก็มาสั่งซื้อสินค้าของเรา โดยที่เราสามารถเป็นคนกลางได้โดยไม่ต้องมีโรงงาน และยังย้ำว่า ขายอะไรก็ได้บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับทฤษฏีนี้เช่นกัน

 

โลกการค้าออนไลน์กับเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนมาไกลมากที่ โทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว ทำได้ทุกอย่าง เปิดร้านขายของ (เฟซบุ๊คและ ไลน์) ถ่ายภาพสินค้า , ติดต่อลูกค้า , ลงโฆษณา , โทรเรียกบริษัทรับขนของมารับสินค้าจากที่บ้าน , ตรวจสอบสินค้าจากแอพ , รับเงินโอนจากลูกค้าผ่านแอพธนาคารทั้งหมด

 

ผมเองก็กำลังท้าทายตัวเองอยู่ 2 เรื่อง คือหาเรื่องให้ตัวเองตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ผมจะทำคือ

– เปิดสอนโซเชียลมีเดียเพื่อการประชาสัมพันธ์ด้วยการจัดหลักสูตรจัดสัมมนาเอง หาลูกค้าเอง เพราะตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญไปสอนหนังสือมาโดยตลอด เป็นเหมือนการตั้งรับ การได้รับเชิญทำให้ผมติดอยู่ในกับดักแห่งความสบาย ไปที่ไหนมีแต่คนให้เกียรติ ไปถึงก็มีคนมารอเรียนแล้ว ยิ่งเป็นงานจัดของหน่วยงานราชการซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายผู้เรียนมาเรียนทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจเพราะ ราชการเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย แต่ส่วนใหญ่ก็ตั้งใจเรียน การที่ผมท้าทายทำสัมมนาด้วยตนเอง ทำให้ผมมีความรู้สึกเหมือนกับเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพมาใหม่ เปลี่ยนความคิดใหม่ๆ เข้ามา ทำให้ผมเกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ เช่น ต้องเรียนรู้การเขียนและทำเว็บไซค์ให้ผู้เข้ามาในเว็บไซค์อ่านหัวข้อและรายละเอียดสัมมนาเพื่อให้อยากจะจ่ายเงินเรียนด้วย , กำหนดเป้าหมายต้องหาลูกค้ามาเรียนให้ได้เพื่อไม่ให้ขาดทุน , เรียนรู้การลงโฆษณาด้วยอินเทอร์เน็ต , ติดต่อบุคคลหรือผู้ใหญ่รู้จักกันส่งบุคคลากรเข้ามาเรียนทำให้ผมสวมวิญญาณการเป็นนักขาย , ผมตั้งวางแผนในการประชาสัมพันธ์ตามโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อให้เกิดการเห็นหัวข้อสัมมนาให้มากที่สุด ฯลฯ พอเริ่มลงมือทำแล้ว ประกาศวันไปแล้วจิตใจ ก็ตื่นเต้น ลุ้นไปด้วยว่า สัมมนาที่จัดขึ้นจะมีคนมาเรียนหรือไม่ แต่เมื่อลงมือทำแล้วต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมสนุกในการท้าทายกับตัวเองมากๆ หลังจากที่ไม่ได้ทำในสิ่งเหล่านี้มานานกว่า 5 ปี

– ประการที่สอง ความฝันอีกอย่างหนึ่งตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา ผมอยากมีธุรกิจขายสินค้าออนไลน์กับเขาบ้าง ญาติๆ ผมขายสินค้าในตลาดจตุจักรมาเป็นสิบปี สินค้าที่ขายมีตั้งแต่ แมลงสตาร์ฟใส่กรอบที่ระลึก, เครื่องไม้จากเชียงใหม่ , กระเป๋าหนังจรเข้, สบู่ผลไม้ ฯลฯ ผมสามารถไปขอสินค้ามาขายได้แต่ผมไม่ได้ชอบในสินค้าเหล่านั้นเลย ผมชอบมวยไทยเคยคิดจะไปเสื้อยืดมวยไทยแถวตลาดโบ๊เบ๊มาขาย แต่ก็คนทำกันเยอะมาก และลึก ๆ ลงไปจริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้อยากขายเสื้อ คนหาตัวเองว่าถ้าอยากขายต้องการขายอะไร มาคุยๆ ดูแล้วการนำสินค้ามาโพสขายก็กินเวลาเหมือนกัน

ถ้าขายเสื้อกำไรตัวละ 150 บาท ถ้าจะให้ได้ 15,000 บาท ต้องขายได้ถึง 100 ตัว เงินจำนวนนี้

ผมสอนหนังสือวันเดียวก็ได้แล้ว เพราะฉะนั้นผมเอาเวลามาเตรียมการสอนให้ดีที่สุดดีกว่า ว่าไปแล้วก็เลิกความคิดขายสินค้า

 

แต่ในที่สุดผมก็มาค้นพบว่า สิ่งที่ผมอยากทำก็คือหนังสือ ผมสามารถอยู่กับหนังสือได้เป็นวันๆ สามารถรีวิวหนังสือออกมาเป็นคลิปบนยูทูบและเขียนรีวิวบนบล๊อคได้ เพราะฉะนั้นผมจึงอยากขายหนังสือออนไลน์ ผมมีซับพลายเออร์ ที่รักกันเหมือนพี่น้องมาอย่างยาวนาน ก็คือศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผมเองก็เป็นลูกค้าประจำค้าขายกันมานานมาก ทำให้ผมอยากท้าทายตัวเองด้วยการเปิดร้านขายหนังสือออนไลน์ ผมอยากให้หนังสือที่ผมชอบมีคนอ่านมากๆ ผมอยากช่วยเหลือนักเขียนที่ทุ่มเทในการสร้างหนังสือให้ขายได้เยอะๆ มีรายได้ ผมอยากให้สังคมไทยเกิดการอ่านเยอะๆ ผมอยากเยอะแยะไปหมด ผมมีความรู้ทางด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ออนไลน์

เพราะฉะนั้น ผมต้องการท้าทายตนเอง ซึ่งก็จะนำสรรพกำลังใส่ลงไปให้ธุรกิจออนไลน์เกิดขึ้น

 

การท้าทายตนเอง เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะว่าสิ่งที่เราทำลงไปนั้นเราไม่ได้เอาผลกำไรทางธุรกิจเป็นตัวตั้ง แต่อยากจะทดสอบความสามารถของตนเองว่าเราจะทำได้หรือไม่ ก็เหมือนฝรั่งมาฝึกซ้อมมวยไทยหรือการแข่งขันอะไรสักอย่างที่ต้องทุ่มเทความสามารถพละกำลังทุกอย่างในตัวเองออกไปให้ถึงเป้าหมายชัยชนะที่ตั้งเป้าไว้ ถ้าสิ่งที่เราทำลงไปแล้วก็อยากให้ประสบความสำเร็จ

 

โลกของการค้าออนไลน์ยุค 2559 ไม่ต้องใช้เงินลงทุนอะไรมากเลย เปิดไลน์ หรือเปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจ ก็ฟรี ลงโฆษณาบนเฟซบุ๊ก และ Google ก็ใช้เงินเริ่มต้นหลักร้อย แค่ๆ เพิ่มไป วันไหนไม่อยากโฆษณาก็ปิดโฆษณาได้ ค่อยๆ เริ่มสร้าง ถ้าไม่ประสบความสำเร็จหรือเจ๊งไปก็ไม่ได้เสียหายต่อตนเองและครอบครัวมาก เป็นธุรกิจที่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เหมือนกับการแข่งขันค่อยๆ เจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับตัวเอง

 

ทุกวันนี้โลกของการออกกำลังดูแลสุขภาพตนเอง เป็นส่งที่เราทำกันอยู่แล้ว การลดน้ำหนัก การออกกกำลัง การวิ่งมาราธอน การปั่นจักรยาน ฯลฯ ล้วนแต่เป็นการท้าทายตนเองในรูปแบบสุขภาพ

 

ผมจึงขอเชิญชวนทุกท่าน มาท้าทายตัวเองในการเปิดโลกธุรกิจออนไลน์ ค้าขายอะไรก็ได้ครับ

มีเว็บไซต์ มีแอป Kaidee เริ่มจากขายในบ้านก่อนก็ได้ แล้วก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

ชวนมาท้าทายตัวเองในการเปิดธุรกิจออนไลน์ครับ

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ