5 วิธีคิดของสุดยอด CEO ระดับโลก : ดร.พยัต วุฒิรงค์

ดร.พยัต วุฒิรงค์

คนอื่นพอเจอคำถามแบบที่ผมถามแล้วอาจคิดว่ามันคือปัญหา แต่เค้าคิดว่ามันทำให้เค้าเอาสิ่งที่ถามไปพัฒนารูปแบบให้ดีขึ้นและเหมาะกับคนไทยมากที่สุด เพราะผมรู้จักคนไทยและองค์กรไทยดีกว่าเค้า

วันนี้ผมอยากเล่าเรื่อง Insider ของ CEO ระดับโลกที่เราไม่ค่อยรู้

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผมมีนัดกับฝรั่งหล่อสูงใหญ่ที่เป็นคนดังระดับโลกในกรุงเทพฯ ฝรั่งคนนั้นเป็นอดีต CEO Superbrands ที่ดูแล Superbrands ทั่วโลก นามว่า Eamonn Sadler

Eamonn ออกจาก Superbrands มาตั้ง MVB ซึ่งเป็นตัวย่อของ The World’s Most Valued Business เพื่อผลักดันและส่งเสริมองค์กรทั่วโลกให้ใส่ใจกับความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างแท้จริง

พูดง่ายๆ คือ องค์กรที่จะอยู่รอดได้ในอนาคตต้องใส่ใจและดูแลสังคม ชุมชน ลูกค้าและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

วันนี้ผมไม่ได้มาเล่าการทำธุรกิจของ MVB สิ่งที่ผมอยากเล่าคือสิ่งที่ผมสังเกตได้จากการพูดคุยกับ Eamonn ตลอด 3 ชั่วโมงเต็ม

หลายเรื่องเป็นสิ่งที่ผมนึกไม่ถึงว่าเค้าจะทำได้

สุดท้ายผมก็บรรลุว่า คงใช่!!! เค้าคิดและทำแบบนี้เค้าถึงเป็น CEO ระดับโลกนี่เอง

 

>> เรื่องที่ 1 เรื่องง่ายใกล้ๆ ตัว

 

เช้านี้พวกเรานัดเจอกันในห้องอาหารโรงแรม

 

ผมไปถึง Nick ยังไม่มา (ฝรั่งเก่งอีกคนหนึ่งในเมืองไทย)

 

เลยคุยทักทายกับ Eamonn ไปเรื่อยๆ

 

ผมให้ Eamonn ดู Post FB ที่ผมเขียนถึงการพบกันของพวกเราเมื่อวานนี้และเล่า Comment ให้เค้าฟัง

 

Eamonn ตื่นเต้นมาก ถึงกับ add friend เข้าไปอ่านเอง

 

ผมถาม Eamonn ว่า “อ่านภาษาไทยรู้เรื่องเหรอ”

 

Eamonn ตอบผมด้วยสีหน้าเรียบง่ายว่า  “เดี๋ยวนี้ไม่ต้องอ่านภาษาออกหรอก ใช้ตัวแปลภาษาได้ ไม่มีปัญหา”

 

จากนั้น Eamonn ก็นั่งอ่านต่อไป…

 

>> เรื่องที่ 2 ไม่เคยก็ต้องเคยซะ

 

หลังจากนั้น Eamonn ก็ขอเบอร์โทรศัพท์ผมเผื่อจะคุยอะไรกัน

 

ผมให้เบอร์ไป

 

Eamonn ส่ง Message มาทันทีว่า “Eamonn” ให้ผม save เบอร์เค้าไว้

 

ผมบอกว่า โทรศัพท์อาจไม่สะดวก เราอยู่กันคนละประเทศ

 

ผมถามต่อ…

 

Eamonn มี Line มั้ย

 

Eamonn ตอบว่า ไม่ได้ใช้ ใช้แต่ Whatsapp

 

ส่วนใหญ่ใช้ Whatsapp,,, Nick ก็เช่นกัน

 

แล้ว Eamonn ก็บอกว่าที่อินโดนีเซียเค้าใช้แต่ Whatsapp ไม่มีใครใช้ Line เช่นกัน

 

ผมก็เล่า Business Model ของ Line ให้ฟัง

 

ระหว่างเล่า Eamonn ก็ทำอะไรกับโทรศัพท์ก๊อกแก๊กๆ

 

ซักพัก Eamonn ถามว่า What is your Line ID

 

ผม งง

 

ใช้ Whatsapp แล้วจะขอ Line ID ทำไม

 

มันใช้กันไม่ได้

 

Eamonn โชว์โทรศัพท์ให้ดู ผมลงทะเบียน Line ID แล้ว

 

ผมนี่… เลยครับ

 

เร็วไปมั้ย นั่งกันแป๊บเดียวเอง

 

ผมเลยให้ Line ID ไป

 

เค้าส่งคำขอมา

 

ผม accept

 

Eamonn ส่งข้อความมาว่า It works!

 

ผมส่ง Sticker กลับไปเป็นหมี Brown และ ปลาหมึกสีแดงของธนาคารแห่งหนึ่ง

 

และบอกว่า This is line’s revenue พร้อมบอกราคาให้รู้ว่าถ้าองค์กรอยากมี sticker แบบนี้ต้องเสียเงินเท่าไหร่

 

ทั้งๆ ที่ผ่านมา Eamonn ไม่เคยใช้ Line เลย

 

เราเป็นเพื่อนกันกับ CEO ระดับโลกแล้ว

 

ง่ายดีนะ…

 

>> เรื่องที่ 3 เราควบคุมชีวิตเราเอง

 

หลังจากส่ง Line กันไปมาซักพัก

 

เสียงติ๊งๆๆ ก็ดังที่เครื่อง Eamonn

 

ผมส่ง Sticker ไปเองหล่ะครับ จะมีใคร

 

เค้ามีผมเป็นเพื่อนใน Line เป็นคนแรกและคนเดียว

 

ความจริง CEO Line ต้องส่งหนังสือขอบคุณมาให้ผมที่เผยแพร่ลัทธิ Liner ให้ผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลกได้ใช้ เผื่อใช้ดีเค้าเอาไปแพร่พันธุ์ต่อในต่างประเทศ Line มีกำไรเพิ่มอีกมหาศาล

 

หลังจากเสียงติ๊งๆๆ ดัง

 

Eamonn บอกผมว่า เค้าจะหาวิธีปิดเสียงเตือนเพราะเค้าไม่อยากให้โทรศัพท์ Control เค้า

เค้าต้องเป็นคน Control โทรศัพท์และชีวิตของเค้า พูดง่ายๆ  Eamonn กำลังทำให้ผมรู้ว่า

 

ขนาดเค้าเป็น CEO ระดับโลกที่มีงานทั่วโลกเค้ายังจัดการชีวิตเค้าได้เลย แล้วคุณเป็นใครทำไมถึงจัดการความสุขของตัวเองไม่ได้

 

ทุกคนเลือกชีวิตของตัวเองได้เสมอ อย่าอ้างว่าสิ่งแวดล้อมหรือเทคโนโลยีทำให้เราเปลี่ยนไป

เรานั่นแหละที่เลือกให้มันมีอำนาจเหนือเรา…

 

>> เรื่องที่ 4 CEO ก็ต้อง Present ได้

ระหว่างรอ Nick ผมบอก Eamonn ว่าวันนี้ผมอยากรู้สองเรื่อง

สิ่งที่อยากรู้ ผมคิดมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ผมอยากรู้มาก อยากรู้จากปากคนก่อตั้งและ CEO MVB และคนที่ทำธุรกิจในระดับโลกอย่าง Eamonn เค้าเห็นธุรกิจทั้งโลกมาแล้ว เห็นความแตกต่างในแต่ละประเทศของโลก แต่ก็กลัวโดนเค้าว่าเหมือนกันว่ามาถามเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

ตอนนั้นผมคิดอย่างเดียวว่า “ไม่ต้องกลัว อายครูไม่รู้วิชา อายภรรยาไม่มีบุตร โอกาสมีได้แค่ครั้งเดียว”

ทั้งชีวิตนี้ผมอาจไม่มีโอกาสได้นั่งคุยกับ CEO ระดับนี้หลายๆ ชั่วโมงแน่ๆ

นี่เป็นโอกาสอันดี 40 กว่าปีเพิ่งมีครั้งเดียว

ผมตัดสินใจถามครับ สวมวิญญาณครูผู้อยากรู้อยากเห็น

 

** คำถามแรก ผมอยากรู้ว่า Process ทั้งหมดของ MVB เป็นอย่างไรแบบละเอียด โดยให้สมมติว่าผมเป็น Potential Customer ให้ Eamonn เล่าให้ฟัง

 

คำถามแรกก็โหดมากแล้วสำหรับคนเป็น CEO ที่โดนถามแบบไม่ตั้งตัว

 

ถ้าจะนึกว่าโหดอย่างไร ให้นึกว่า CEO ที่มีธุรกิจทั่วโลก จะมีซักกี่คนที่รู้กระบวนการอย่างละเอียดบ้าง

 

หน้าที่ CEO ระดับนี้ต้องมองภาพใหญ่

 

** คำถามที่สองโหดกว่าคำถามแรกมาก

 

ผมอยากรู้ว่า Back Office ทั้งหมดในการ Manage กระบวนการทั้งหมดของ MVB ต้องทำอะไรบ้างหลังจากได้ลูกค้ามา

 

ผมนึกในใจ นี่เราเป็นคนโหดร้ายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

 

Eamonn หยุดไปเล็กน้อย และบอกว่า…

ผมต้องขึ้นไปเอา Laptop บนห้อง

เราขึ้นไปคุยที่ Business Lounge ชั้น 26 ดีกว่า ที่นี่เสียงดัง

Nick มาพอดี

หลังจากนั้น Eamonn ก็เอา Laptop พร้อมนำ Presentation มาเล่าให้ผมฟัง

ผมก็ยิงคำถามไปเรื่อยๆ ตามภาษาครูอยากรู้อยากเห็น รวมเวลาได้ประมาณ 2 ชั่วโมง เกือบบ่ายโมง

Eamonn อธิบายให้ผมฟังได้ละเอียดมากๆ

เล่าเรื่องการ Convince ลูกค้าให้สนใจเรื่องการทำธุรกิจที่ดี

การมี Commitment ในการทำสิ่งที่ดี

การสร้าง Network ของคนและองค์กรที่ทำดี

การวิจัยทั่วโลกเรื่องมาตรฐานการทำสิ่งที่ดีต่อผู้มีส่วนได้เสียกับธุรกิจ และอีกมากมาย…

 

Nick ถามผมว่า ต้องการรู้อะไร หรือถามอะไร Eamonn อีกมั้ย

 

ผมไม่แน่ใจว่า Nick ถามจริงๆ หรือเปล่า เพราะที่ยิงคำถามตลอด 2 ชั่วโมงนี่เยอะมาก

แต่ผมก็ถามอีก

สองคำถามสุดท้ายที่ผมถามคือ

 

Who is your membership now and Who is your potential customers

 

Eamonn ตอบคำถามแรกว่า ตอนนี้สมาชิกที่คนไทยรู้จักดีและมี commitment ในการทำสิ่งที่ดีต่อผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจ เช่น CocaCola, IKEA, brother, Grundfos, The Body Shop

 

ผมฟังแล้วก็เป็นองค์กรใหญ่ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี

 

Eamonn ตอบคำถามที่สองว่า คนที่จะเป็นสมาชิก MVB ได้คือคนที่มี Commitment ต่อการทำสิ่งที่ดีในเจ็ดด้าน
– ความยั่งยืน (Sustainability)

– ความมั่นคงและความปลอดภัย (Safety and Security)

– ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendliness)

– การจ้างงานด้วยความเป็นธรรม (Ethical Employment)

– การใส่ใจการบริการและให้ความเคารพลูกค้า (Customer Service & Respect)

– มีค่านิยมองค์กรที่ดี (Corporate Values)

– การดำเนินธุรกิจให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (Best Possible Business Practices)

 

ผมถามต่ออีกนิดว่า Eamonn เคย Reject Application Form จากองค์กรไหนหรือเปล่า,,,ในใจผมคิดว่าไม่น่าจะมี

 

Eamonn บอกว่า เยอะมาก

 

MVB คือ Third Party ที่ต้องมีความน่าเชื่อถือ บางองค์กรไม่เข้าใจเรื่องนี้ ต้องการใช้เงินซื้อชื่อเสียง เค้าไม่รับเป็นสมาชิก

 

ผมอยากบอก Eamonn ว่า…

 

นอกจากคุณจะหล่อ สมาร์ท เก่งแล้ว ใจคุณยังหล่อมากๆ

 

เสียดาย Eamonn มีภรรยาแล้ว ไม่งั้นผมจะหาสาวไทยนิสัยดีดึงให้อยู่เมืองไทยเลย

 

>>> เรื่องที่ 5 คำถามคือพระเจ้า

 

“ความสำเร็จกับความล้มเหลวต่างกันแค่วิธีคิดนิดเดียว”

 

Eamonn บอกว่าเค้าชอบเจอคนแบบผม…คนที่ชอบถาม

 

วันนี้ผมยิงคำถามไปซัก 20-30 คำถาม

 

Eamonn บอกว่า คนอื่นพอเจอคำถามแบบที่ผมถามแล้วอาจคิดว่ามันคือปัญหา แต่เค้าคิดว่ามันทำให้เค้าเอาสิ่งที่ถามไปพัฒนารูปแบบให้ดีขึ้นและเหมาะกับคนไทยมากที่สุด เพราะผมรู้จักคนไทยและองค์กรไทยดีกว่าเค้า

 

ขอแถมหนึ่งเรื่องที่ผมประทับใจนอกจากวิธีคิดของ CEO ระดับโลกคนนี้

 

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ผมได้คุยกับ Eamonn ไปรอบนึงแล้วตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึงเกือบบ่าย 3

 

คุยเสร็จพอจะแยกย้ายกันกลับบ้านพบว่า ไม่มีใครเอารถมา!!! รวมทั้งผมด้วย

 

เราตกลงกันว่าจะขึ้น BTS กลับเพราะกลัวรถติดช่วงเย็น

 

เป็นหน้าที่ผมที่ต้องพาฝรั่งระดับโลกไปขึ้น BTS เพื่อแยกย้ายกันกลับที่พัก

 

ผมถาม Eamonn ว่า เดินไหวเหรอกิโลกว่าๆ นะ อากาศเมืองไทยร้อน

 

Eamonn ตอบว่า “สบายมาก ผมไม่ได้ใส่สูท…”

 

ช่วงนี้ได้เจอชาวต่างชาติเก่งๆ บ่อยมาก มีความคิดแปลกๆ ใหม่ๆ ตลอด สนุกดี เจอแล้วก็ได้แต่คอยเตือนตัวเองเสมอว่า อย่ามัวแต่สนุกไปวันๆ โลกไม่สนุกไปกับเรานะ ทุกอย่างหมุนไป แค่ทำเหมือนเดิมก็เท่ากับถอยหลังแล้ว,,,คิดให้ดี คิดให้ต่างแล้วลงมือทำ ล้มให้เร็วแล้วรีบลุกดีกว่ากลัวจะล้มจนไม่ได้ลุก…สวัสดี

 

 

ดร.พยัต วุฒิรงค์

นักบริหารจัดการนวัตกรรมและสร้างคุณค่าแถวหน้าของเมืองไทย มีพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ธุรกิจ แต่หันมาเอาดีด้านการตลาด การบริหารคน และการบริหารจัดการนวัตกรรม เพราะมองว่ามีความท้าทายและมีความสุขมากกว่า สั่งสมประสบการณ์จากองค์กรอันดับ 1 ด้านนวัตกรรมและการบริหารคนของไทยเกือบ 20 ปี จากนั้นลาออกมาช่วยพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ในหลากหลายศาสตร์จาก “หิ้งสู่ห้าง” สร้างคุณค่าเพิ่มให้กับสิ่งที่มีอยู่ และพัฒนานวัตกรรมให้เกิดขึ้นตลอดเวลา ชอบพูดคุยกับผู้รู้ CEO องค์กรต่างๆ ชอบเดินทางท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์และวัตถุดิบมาต่อยอดความรู้และถ่ายทอดสู่สังคม

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ