บทที่ 12 ทีมเวิร์กคือคำตอบสุดท้าย : ดร.สมฤดี ศรีจรรยา

บางครั้งต้องไปอยู่บริษัทเล็กๆ แต่งแข่งกับบริษัทใหญ่ เหมือนสมัยอยู่พรีเมียร์มาร์เก็ตติ้ง ช่วยกันทำน้ำมันพืชตราองุ่น ต้องสู้กับยักษ์ใหญ่ที่มีกำลังแข็งแกร่งกว่าทั้งการเงิน การตลาด และพนักงานขายเป็นกองทัพใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโลตัส ของลีเวอร์บราเธอร์ หรือ ทิพ ของดีทแฮล์ม และ กุ๊ก เจ้าตลาดกลุ่มล็อกเลย์

บทที่ 11 ครู โค้ช พี่เลี้ยง : ดร.สมฤดี ศรีจรรยา

คำว่าโค้ช หรือพี่เลี้ยงเป็นหน้าที่สำคัญของผู้บังคับบัญชาทุกคน เพราะการสั่งงานไปไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะทำได้อย่างนั้น เราต้องคอยติดตามว่าสั่งแล้วเขาทำได้หรือเปล่า เขาทำไหวไหม เราใช้คนผิดงานหรือเปล่า เราไปไว้วางใจเขามากไปไหม เพราะบางคนก็ทำได้ดี เหมือนนักมวยที่สอนไปแล้วก็ทำได้ดี แต่บางคนเราก็ต้องคอยจี้ คอยติดตาม คอยแก้ทางให้ถ้าเกิดปัญหา

บทที่ 8 นายจ๋า เอาไงดีจ๊ะ : ดร.สมฤดี ศรีจรรยา

คำถามว่าจะจัดการกับคนไม่ใส่ใจการทำงานอย่างไรดี การเป็นผู้บังคับบัญชาถือเป็นเรื่องยากและท้าทายที่สุด เพราะจะต้องจัดการกับปัญหาเรื่องคนเป็นหลัก

บทที่ 7 จินตนาการสร้างสรรค์ : ดร.สมฤดี ศรีจรรยา

“คนที่ถีบตัวเองให้พ้นจากความยากจน ไปสู่ความร่ำรวยได้เหมือนจรวดพุ่งพ้นแรงดึงดูดโลก ไปสู่จักรวาลอันกว้างใหญ่ ก็อยู่ที่แรงผลักของจินตนาการสร้างสรรค์ของตนเอง”

บทที่ 5 นักเรียนตลอดชีวิต : ดร.สมฤดี ศรีจรรยา

“การเรียนรู้มิได้สิ้นสุดที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ที่แท้เราเพิ่งเริ่มต้นเรียนรู้จากชีวิตจริงหลังจบจากมหาวิทยาลัย”

บทที่ 4 ค้นหาตัวเราเอง : ดร.สมฤดี ศรีจรรยา

“วิเคราะห์ตัวเอง มองเห็นตัวเองในกระจก เห็นทั้งภายนอก เห็นทั้งภายใน เราก็คงจะแก้นิสัย แก้ศักยภาพ แก้อารมณ์ และความคิดในตัวเองได้เยอะทีเดียว”

บทที่ 6 ยิ้มกับปัญหา : ดร.สมฤดี ศรีจรรยา

“ใครก็ตามที่ออกจากบ้านแล้วไม่ยิ้ม…ก็เหมือนแต่งตัวยังไม่เสร็จ ภาพไม่เรียบร้อยใครเห็นก็ดูไม่สบายตา… ไม่สบายใจ…”

บทที่ 3 เป้าหมายชีวิต : ดร.สมฤดี ศรีจรรยา

“เป้าหมาย คือ จุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จ นักบริหารที่ดี จะต้องถือว่า เป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการบริหารงาน”

1 2