Apple บริษัท สตาร์ทอัพ ที่ก่อตั้งเมื่อ 40 ก่อน (1 เม.ย.2519) ทุกวันนี้ ก็ยังความเป็น สตาร์ทอัพ วันยังค่ำ เพราะ DNA ของบริษัทมีแต่เรื่องนวัตกรรมล้วนๆ….
และแล้วไอโฟน 7 ก็เปิดตัว โดยครั้งนี้มาพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพเรื่องกล้อง , การออกแบบ , ไม่มีแจ๊คหูฟัง ป้องกันน้ำได้ ซึ่งช่วงสงกรานต์เมืองไทย 2560 คงได้เห็นอะไรดีๆ กันบ้างเพราะตรงนั้นเป็นของจริงที่จะทดสอบไอโฟน 7 กันได้ขนาดไหน ทั้งนี้ทั้งนั้น แอปเปิ้ลได้เปิดตัว Apple Watch Serie 2 ที่กันน้ำได้ ติดตั้ง GPS รายละเอียดไม่ขอพูดมากนักนะครับ หลายสื่อนำเสนอกันไปมากแล้ว ถ้าท่านเป็นคนชอบถ่ายรูปแนะนำซื้อไว้เลยครับ
ช่วง 2-3 วันนี้ ตื่นเช้ามาเปิดอ่านข่าวของแอปเปิ้ลเต็มทุกพื้นที่ของทั้งในและต่างประเทศ ชาวทวิตเตอร์เมืองไทย เข้ามาตามอ่านกันที่แฮชเทค #iphone7th ผมคิดว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ศึกษาเรื่องราวของ Apple มานานและพอจับแนวทางการนำเสนอเปิดตัวสินค้า ซึ่งธุรกิจ SME มาประยุกต์ใช้ได้ไม่ยากครับ มาดูกันเป็นประเด็นๆ ที่ผมแยกย่อยไว้ครับที่เรานำมาปฏิบัติได้
โชว์นำเสนอตัวเลขที่เหนือกว่าคู่แข่ง พูดด้านดีของตนเอง
ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิ้ลออกเปิดเผยว่า การเปิดตัวของสินค้าแอปเปิ้ลทุกครั้ง จะมีการอัพเดทตัวเลขของผู้ใช้สินค้า ยอดผู้ดาวน์โหลด สิ่งเหล่านี้การตอกย้ำถึงการนำหน้าของคู่แข่งโดยไม่ต้องเอ่ยชื่อของคู่แข่ง ถ้าธุรกิจเรามีตัวเลขดีอยากนำเสนอในการเล่าก็บอกกล่าวไปเลย เช่นขายไอโฟนไปแล้ว 1,000,000,000 เครื่อง
พรีเซ็นต์เทชั่นพื้นหลังสีดำ ตัวหนังสือสีขาว
ผู้บริหารที่ออกมาเปิดตัวสินค้าเกือบทุกคน เหมือนกับได้รับมรดกจาก สตีฟ จ๊อบส์ และเป็นเหมือนกับ DNA ขององค์กร สไลด์ในการนำเสนอจะมีแต่ข้อความ ภาพ และ ตัวเลข เท่านั้น ไม่ใช่ยัดตัวอักษรเหมือนกับการนำเสนอแบบไทยๆ ให้ผู้เข้าฟังไปนั่งอ่านกัน เขาใช้วิธีการเล่าเรื่อง (Story telling) กระตุ้นต่อมความอยากไปเรื่อยๆ ภาพสไลด์นำเสนอออกมาตรงกับสิ่งที่พูด ผู้นำเสนอเป็นคนเล่าเรื่อง (Story teller) ที่ดี ดึงดูดสายตาและหูฟังของผู้ชมได้ตลอดเวลา ผมขอแนะนำว่าทำอยากทำสไลด์สไตล์แอปเปิ้ลนั้น ไม่ยากเลยครับ
วิธีการคือ ถ้าไม่ได้ใช้ Iworks เครื่องแม็คก็ไม่เป็นไร ใช้ Google Slide จาก Gmail ที่เราใช้กันนี่และครับง่ายที่สุด ดาวน์โหลดมาติดตั้งทำบนไอแพด หรือ แท็บเล็ตก็ได้ครับ อย่าลืมพื้นหลังดำ ตัวอักษรขาว ลองวางเรื่องราวลำดับก่อนหลังตามที่อยากนำเสนอครับ ใช้หลักการเปิดภาพมาและเสียงพูดต้อง ว้าว!!! คนอยากฟังเลยครับ มีข้อสังเกตแนะนำอีกนิดนึงพื้นหลังสีดำไม่เหมาะสำหรับส่งสไลด์ไปสอนหนังสือถ้าพิมพ์ออกมาแล้วจะดำ
เสื้อผ้าการแต่งกายของผู้บรรยาย
เสื้อผ้าหน้าผม ของผู้บรรยายชายในงานเปิดตัวไอโฟน สังเกตเลยครับ เสื้อเชิ้ตแขนยาว ปล่อยชายเสื้อไม่ใส่เข้าในกางเกง ปล่อยสบายๆ กางเกงที่ใส่เป็นกางเกงยีนส์ใส่แล้วดูออกเป็นวัยรุ่นไม่กระชากวัยไม่แก่เลย ทั้งที่ ทิม คุก อายุเลยวัยเกษียณไปแล้ว ผมอยากเชิญชวนลองเปลี่ยนตัวเองมาใส่เสื้อผ้านำเสนอแบบนี้บ้างครับ
ผมพูดไม่อายเลยว่า ชีวิตในการสอนหนังสือและการแต่งตัวของผมเลียนแบบมาจากผู้บรรยายในงานเปิดตัวไอโฟนนี่แหละครับ การใส่เสื้อเชิ้ต กางแกงสแลค์ ที่ขายตามห้างบอกเลย เชยมากๆ ใส่แล้วจะดูแก่ ถ้าจะใส่สูทก็เป็นสูทลำลองสบายๆ อายุจะลดเยอะเหมือนกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอทันสมัย
ถ้าอยากได้รับตัดวัดตัวใส่เอง ผมขอแนะนำร้านประจำของผมครับชื่อร้านปิแอร์ อยู่ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทารา เซ็นทรัลเวิลด์ เสื้อตัวละ 800-1,000 บาทเท่านั้น ถูกกว่าไปซื้อในห้าง ถ้าเป็นเสื้อสวยๆ ต้อง 2 พันกว่าบาทขึ้นไปครับ ที่ร้านปิแอร์วัดตัวตัวกันเลยครับ ใครพุงยื่น เทคนิคการตัดจะช่วยปิดพุงได้เยอะ เสื้อสูทตัวละ 3,000-4,000 บาท กางเกงยีนส์ ผมซื้อลีวายส์ กับ แม็ค ไม่แน่ใจว่าที่ร้านตัดหรือเปล่าแต่น่าจะมีครับ
การเข้าถึงความลึกซึ้งของเทคโนโลยีของแอปเปิ้ล สำหรับผมแล้วเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มีอะไรที่มากกว่าเบื้องหลังการเปิดตัวสินค้า สิ่งที่ติดมามาบน ไอโฟน เช่นแอป Imovie ตัดต่อวีดีโอ, garageband แอปแต่งเพลง (อันนี้ผมใช้เป็นแค่อัดเสียง แต่ถ้ามีความคิดสร้างสรรค์ทางดนตรีสุดยอดมากครับ)
สตีฟ จ๊อบส์ ต้องการเครื่องมือเทคโนโลยีของเขาเปลี่ยน ผู้ใช้ไอโฟนธรรมดาให้เป็นศิลปินเปลี่ยนจากมือสมัครเล่นมาเป็นมืออาชีพให้มีขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพการของชีวิตและการทำงานของผู้ใช้ พัฒนาศักยภาพตนเอง มากกว่า ที่เราเห็นในการการเปิดตัวสินค้าเป็นเสมือนบอกว่าเมื่อแอปเปิ้ลขยับโลกก็กำลังขยับตามเช่นกัน
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้าของแอปเปิ้ลเต็มไปด้วยศิลปะและความน่าสนใจในการนำเสนอ สิ่งที่ผมเขียนเพื่อต้องการให้ท่านผู้อ่านได้ลองนำไปประยุกต์กับชีวิตและธุรกิจดูบ้างเหมือนกับที่ผมได้ทดลองมาแล้วครับ และก็ได้ผลกับในภาพลักษณ์การแต่งตัว การสอนหนังสือด้วยสไลด์สไตล์สตีฟ จ๊อบ
ผมอยากเชิญชวนอ่าน หนังสือ Becoming Steve Job มีแปลเป็นภาษาไทยชื่อว่า กว่าจะเป็น สตีฟ จ๊อบส์โดยสำนักพิมพ์เนชั่น เราจะได้ทราบวิธีการนำความรู้จากสิ่งต่างๆที่เขาได้เรียนรู้มาประยุกต์เข้ากับ บริษัทแอปเปิ้ล ซึ่งปัจจุบันเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าและทำกำไรมากที่สุดในโลกครับ…
