บทความล่าสุดที่ผมเขียน ผู้ชมคือสินทรัพย์ปรากฏการณ์โซเชียลมีเดีย 2017 สรยุทธ รายงานข่าวน้ำท่วมใต้ Facebook Live VS วู้ดดี้ เลิกช่อง 9 ตะลุยโซเชียล มีผู้อ่านมากกว่า 6 หมื่นวิวแล้ว ต้องขอบคุณที่ให้ความสนใจมากๆ และวันนี้ขอเขียนถึง บุคคลที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของโลกมากที่สุดในหนึ่งในศตวรรษนี้ ที่เปลี่ยนโลกของบุคคลธรรมดา ให้มีพลังเทียบเท่าสื่อกระแสหลัก
นั่นคือ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้สร้าง Facebook และเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ เข้าไปสร้างปรากฏการณ์ให้สมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือสามารถถ่ายทอดสด ทำให้ คุณสรยุทธ กลับมาจัดรายการโดยไม่ต้องพึ่งทีวี และ วู้ดดี้ ทิ้งช่องเก้า เข้าสู่โลกของการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook และคนไทยอีก 30 กว่าล้านคนที่ใช้ Facebook ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงเข้านอน ร่วมกับ สมาชิก 1.8 พันล้านคนทั่วโลก
และปรากฏการณ์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทยภาคใต้มากที่สุดก็คือน้ำท่วมภาคใต้
Facebook Live เป็นพระเอกไปพร้อมๆ กับ ผู้บริการโทรศัพท์มือถือทุกราย ในการถ่ายทอดสด ความเสียหาย และ การขอความช่วยเหลือ จากประชาชน คนธรรมดา รายงานเหตุการณ์กันเอง
คู่ขนานไปกับสื่อสารมวลชนหลักที่ต่างก็ร่วมไม้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่
โลกปี 2017 กำลังเปลี่ยนแปลงฟังในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีที่เป็นนักธุรกิจมีทั้งล้มเหลวและประสบความสำเร็จแต่วันนี้เค้ากำลังจะเป็นผู้นำของโลกพลังแบบหนักสุด
เค้าชนะการเลือกตั้งเพราะรู้จักการใช้งานโซเชียลมีเดีย รายใหญ่ของ Facebook ในการซื้อโฆษณาเจาะกลุ่มเป้าหมาย บางทีชอบหน้าและไม่ชอบหน้า
เป้าหมายของเขาในปี 2017 คือการเดินทางไปทุกรัฐของสหรัฐอเมริกา เป็นเรื่องน่าชื่นชมมาก คือได้ไปเห็นชีวิตจริงความเป็นอยู่ของเพื่อนร่วมชาติ และสื่อสารกับประชาชนผ่าน Twitter @realdonaldtrump ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 19 ล้านคน
มาร์ค ซัคเกอร์ CEO และผู้ก่อตั้ง Facebook เพิ่งได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Fortune ฉบับเดือน ธันวาคม 2016 ให้เป็นนักธุรกิจแห่งปี 2016 จากการวิจัยและประเมินผลคะแนนออกมา วัดจากรายได้
เป็น CEO อายุน้อยที่สุดเพียง 32 ปี และรวยที่สุดติดอันดับ 1 ใน สิบ ธุรกิจปั้มเงินทุกวินาทีจากทั่วโลก ผ่านสื่อดิจิตอลอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว ไม่มีสิ่งใดจับต้องได้ เพราะทุกอย่างอยู่สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ สินค้ามีคนใช้งานตลอดเวลา นอกจาก Facebook ยังมีแอป Messger , Facebook Groups , Facebook Pages เขายังเป็นเจ้าพ่อของการซื้อกิจการเช่น Whatapps , instagram และหลากหลาย ฯลฯ มาร์คเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารตั้งแต่วันเริ่มต้นวันแรกของธุรกิจมาถึง ณ เวลา ปัจจุบัน
http://fortune.com/businessperson-of-the-year/
เฟซบุ๊ก มีพนักงาน 16,000 คน มีมูลค่าหุ้นกว่า 350 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2016 มีรายได้ 27 พันล้านเหรียญสหรัฐ กำไร 7 พันล้านเหรียญ นี่คือผลจากการบริหารของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซึ่งตำแหน่ง นักธุรกิจแห่งปี 2016 ของนิตยสาร Fortune ไม่ได้ซื้อตำแหน่งเหมือนกับซื้อโฆษณา
แต่วัดจากตัวเลขอันการจากประสิทธิภาพและประสิทธิผลของทุกองคาพยพของเฟซบุ๊ก ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นตัวเลขให้กับนักลงทุน และ ผู้ถือหุ้น สมาชิกทั่วโลก
New Year Resolution เป็นเหมือนกับวัฒนธรรมของอเมริกันชน ซึ่งเมื่อขึ้นปีใหม่ก็จะมีเป้าหมาย ใหม่ๆ ให้กับชีวิต มาร์ก ก็เช่นเดียวกันเขาได้ประกาศในหน้าแฟนเพจถึงเป้าหมายในชีวิต ในปี 2017
ว่าจะได้เดินทางไป 50 รัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีและอนาคต เขาจะได้ทางไปในเมืองเล็กๆ มหาวิทยาลัย
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศกว้างใหญ่ไพศาล ความกว้าง ของประเทศถ้ามองจากแผนที่กระดาษ สมัยที่ยังเป็นเด็กหรือมองผ่านแอป google earth จะเห็นว่า อเมริกามีแผ่นดินฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติค ทางด้านตะวันออก และมีแผ่นดินอีกฟากฝั่งคือมหาสมุทรแฟซิฟิค
ถ้านั่งเครื่องบินจากนิวยอร์กไป ลอสแองเจอลิส จากฟากตะวันออกไปตะวันตก บินไม่หยุดเลย ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง กว้างใหญ่มาก เพียงแค่ รัฐแคลิฟอร์เนีย กับ รัฐเท็กซัสก็ใหญ่กว่าประเทศไทยแล้ว พื้นที่ของประเทศไทยเรา จากกรุงเทพ บินด้วยเครืาองบินพาณิชย์ ไป เหนือ อีสาน ใต้ เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นถือว่าเล็กมาก ถ้าเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกา
เป้าหมายปี 2017 ดูแล้วคล้ายกับนักการเมืองมาก แม้แต่สื่อของสหรัฐฯ ยังตั้งคำถาม ไม่แน่ว่าในอนาคตเขาอาจจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธบิดีของสหรัฐฯ ก็ได้ ยังมีเวลาอีกมาก สำหรับชายหนุ่มเพิ่งอายุ 32 ปี มาร์ก จะได้เข้าถึงชีวิตอเมริกันแบบเข้าถึงชีวิต ไปดูชีวิตความเป็นอยู่ชาวอเมริกันว่าคิดอย่างไร มองอย่างไร คิดต่ออนาคตของเทคโนโลยีและเทศอย่างไรบ้าง
โลกของเฟซบุ๊ก เราสามารถติตตามไปเที่ยวกับ มาร์ก ทั่วสหรัฐอเมริกา ใน Facebook Groups ที่ได้ตั้งขึ้น
https://www.facebook.com/groups/YearofTravel/
และ อีก กลุ่ม ก็คือ A Year of Traveling the US
https://www.facebook.com/groups/YearofTravelingtheUS/
เป็นโอกาสที่น่าสนใจที่เราจะได้ติดตามไปเที่ยวสหรัฐอเมริกากับมาร์คและเพื่อนๆ ผ่านเฟซบุ๊ก
ปี 2016 เขาตั้งเป้า วิ่ง 365 ไมล์ เรียนภาษาจีน อ่านหนังสือใหม่ 25 เล่ม ซึ่งถ้าลองมาคิดดูให้ดีการตั้งเป้าหมายส่วนตัวของเขาก็ไม่ได้มากมาย เช่นการวิ่ง 365 ไมล์ ก็คือ วันละ 1 ไมล์ หนึ่ง ไมล์ เท่ากับ 1.6 กิโลกเมตร ใช้เวลาเดินวิ่งก็ไม่เกิน 25 นาที เพราะฉะนั้นการตั้งเป้าหมายของเราก็ไม่ต้องตั้งมากก็ได้ครับ สำหรับผมแล้วก็คิดว่าตั้งเป้าหมายเขียนหนังสือ 3 เล่ม อยากทำให้ได้จริงๆ
มาร์ก มีพี่เลี้ยงคือ Sherly sanbreg ตำแหน่ง COO เป็นงานแม่บ้าน เบอร์ 2 รองจาก CEO เธอเคยเป็นพนักงาน google จบ MBA จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด อายุมากกว่ามาร์ค 15 ปี ช่วยเก็บรายละเอียดทั้งหมดของบริษัท ทำงานร่วมกันได้อย่างดีมาก
เขาเป็นเด็กหนุ่มที่กล้าได้กล้าเสียมาจาก ครอบครัวมีอันจะกิน เรียนมัธยมจากโรงเรียนฟิลิป์ เอ็กเซคเตอร์ (คุณสฤณี อาชวนันทกุล นักแปลและนักเขียนชื่อดังของไทยจบจากที่นี่) จากนั้นเข้าเรียนคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในปี 2004 ลาออก เพื่อไปก่อตั้ง Facebook เพื่อวิสัยทัศน์เชื่อมโลกและผู้คนเข้าหากัน
สำหรับท่านผู้อ่านที่ต้องการจะตั้งเป้าหมายแบบมาร์ก มีแอปที่เราสามารถตั้งเป้าหมายในชีวิตของเรา ซึ่งเป็นแอปที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ ก็คือ Google Calendar หรือ Google ปฏิทิน นี่คือแอปตั้งเป้าหมายที่ดีที่สุด และ ฟรี
มีสิ่งหนึ่งที่เราสามารถเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับมาร์ก ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่ CEO แต่เราอ่านข้อมูลเดียวกับเขา ผู้เขียนใช้แอป Scribd เป็นแอปสำหรับอ่านหนังสือ ถ้าใครจะสมัครสมาชิกเพียง 8.99 เหรียญ
ถ้าใครอยากอ่านฟรีก็ได้อ่านพรีวิวหนังสือ ในแอปนี้จะมีการแนะนำ Playlist หนังสือของเหล่าคนดังเช่นบิลเกต , สตีฟ จ๊อบส์ , โดนัล ทรัมป์ , ฮิลลารี่ คลินตัน และ
ขอแนะนำหนังสือที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก อ่านครับ
รายชื่อหนังสือที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก อ่าน
– Rational Optimist
– Creativity Inc.
– Portfolios of the poor
– Henry Kissinger Word Order
– The New Jim Crow
– Gang Leader for a day
– Sapiens A Brief History of HumanKind
– Genome
– The Structure of scientific Revolution
– Varieties of religious experience
– Energy
สำหรับหนังสือที่เกี่ยวกับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กสำหรับชาวไทยผู้สนใจมีแปลแล้ว 2 เล่มได้แก่
– The Facebook Effect เฟซบุ๊ก ปรากฏการณ์เปลี่ยนโลก
– Think Like Zuck คิดอัจฉริยะ แบบ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
–
ติดตามเฟซบุ๊กของเขาได้ที่ https://www.facebook.com/zuck ถ้าใช้งานผ่านเว็บเบราเซอร์กดอ่านคำแปลได้เลยครับว่าเขาพูดอะไรครับ
หรือถ้าอยากชมคลิปวีดีโอประวัติศาสตร์ที่เขาได้รับเชิญไปบรรยายให้กับนักศึกษาชั้นเรียนคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่อ ปี 2005 จะได้รับทราบถึงความเป็นมาเฟซบุ๊กแบบที่ไม่เคยฟังที่ไหนมาก่อน เพราะเป็นช่วงที่เขาเริ่มต้นจริงๆ และยังไม่มีประสบการณ์ธุรกิจมากนัก
https://www.youtube.com/watch?v=xFFs9UgOAlE
โลกเดี๋ยวนี้เป็นโลกของการแชร์ความรู้จริงๆ เราสามารถเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
ผู้ที่เปลี่ยนแปลงโลกได้ตลอดเวลาจากความคิดของเขา สิ่งที่คนไทยได้เรียนรู้จะทำให้เราเท่าทันในโลกของธุรกิจโซเชียลมีเดียและการปรับตัวให้เท่าทันกับโลกดิจิทัล