เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวธุรกิจชิ้นหนึ่งน่าสนใจมาก เครือซิเมนต์ไทย ประกาศร่วมลงทุนกับ Yamato Asia Pte, Ltd. เปิดกิจการขนส่งพัสดุภัณฑ์รายย่อยให้บริการทั่วประเทศไทยชื่อว่า SCG Yamato Express
นี่เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจมาก เพราะ Yamato เป็นกิจการบริการขนส่งสินค้าและพัสดุโด่งดังสัญชาติญี่ปุ่น ตราสัญลักษณ์ของ Yamato ก็คือเจ้าแมวดำบนพื้นเหลือง ทะ-คิว-บิง (TA-Q-BIN) ที่กำลังขยายกิจการออกทั่วเอเชียตะวันออก ไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่เพิ่งร่วมทุนกับปูนใหญ่เท่านั้น ขณะนี้ทะคิวบิง มีสาขาใหญ่ที่สิงคโปร์ มีกิจการร่วมทุนเปิดกิจการรับส่งพัสดุขนาดเล็กและสินค้าแช่แข็งผ่านแดนในมาเลเซีย ไต้หวัน และเซี่ยงไฮ้
ซึ่งก็เท่ากับนับจากนี้ เจ้าแมวดำ-ทะคิวบิง ก็จะมีเครือข่ายบริการครอบคลุมในประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ของเอเชียตะวันออกและย่านอาเซียน กลายเป็นยักษ์ใหญ่ขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์สัญชาติเอเชียรายใหม่ที่น่าจับตา
ธุรกิจรับส่งสินค้าเป็นตัวกลางขนส่งนั้น เป็นธุรกิจดาวรุ่งในอนาคต ยิ่งผู้คนทั่วโลกสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ต้องอาศัยเครือข่ายขนส่งนำสินค้าไปถึงมือผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ในขณะที่แนวโน้มของห้างสรรพสินค้าและร้านค้าคนกลางกำลังล้มหายตายจาก ในอเมริกานี่ชัดเจนว่าห้างใหญ่ๆ ทยอยปิดหรือไม่ก็แสดงผลกำไรลดลงเรื่อยๆ อันเป็นผลจากช็อปปิ้งออนไลน์ เจ้าธุรกิจขนส่งพัสดุขนาดเล็กนี่แหละนี่จะมาแทน
กิจการขนส่งสินค้าทะคิวบิง มีสไตล์ที่ได้รับการยกย่องมาก เพราะมีจิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่น ประณีต ละเอียด ตรงเวลา และนี่ก็เป็นหนึ่งใน 5 ของธุรกิจในอนาคตที่รัฐบาลญี่ปุ่นส่งเสริมเพื่อปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจศตวรรษใหม่ ที่เรียกรวมกันว่า Cool Japan ซึ่งประกอบด้วย อุตสาหกรรมอาหารญี่ปุ่น (Food Culture) เรียวกังและโรงแรมที่พัก (Japanese Style Inns) ศิลปหัตถกรรมแบบญี่ปุ่น (Traditional arts and crafts) การ์ตูนญี่ปุ่น (Anime and manga) และตัวสุดท้ายก็คือ Express delivery services ซึ่งมีเจ้าแมวดำทะคิวบิง ของ Yamato นี่เลยที่เป็นหัวหอก
แมวดำทะคิวบิง ของ Yamato สร้างชื่อเสียงในประเทศจีนไว้มากมาย เพราะแพกเกจจิ้งแบบญี่ปุ่นที่ประณีตทันสมัย เก็บสินค้าแช่แข็งอาหารทะเลทั้งหลายชนิดที่คงรักษาความสดไว้เหนือกว่ากิจการขนส่งคู่แข่งอื่น ที่สำคัญคือความเข้มงวดเรื่องการบริหารเวลาให้ตรงตามกำหนดนัด เมื่อประกอบกับแนวโน้มที่เป็น Mega trends ของสินค้าออนไลน์ในจีนที่ผู้คนนิยมสั่งสินค้าด้วยช่องทางนี้เพิ่มพรวด มันจึงเกิดเป็นความมั่นใจว่าธุรกิจรับขนส่งสินค้าแบบญี่ปุ่นหรือแบบทะคิวบิงนี่ล่ะ จะเป็นดาวรุ่งในอนาคตอีกตัว เหมือนกับมังงะ อาหาร เรียวกัง และการท่องเที่ยวที่รัฐบาลกำลังเร่งทำยอดเป้าหมายอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
นี่เป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตา เพราะธุรกิจจัดส่งกระจายสินค้าลักษณะนี้ไม่ใช่ใครก็ทำกันง่ายๆ บริษัทไปรษณีย์ไทยซึ่งมีเครือข่ายกว้างขวางลงลึกระดับอำเภอเจ้าถิ่นเองก็ยังต้องปรับตัวขนาดหนัก เพราะกุญแจไขความสำเร็จของกิจการแบบนี้ไม่ได้มีแค่เครือข่ายหรือรถหรือพนักงานที่ครอบคลุมเท่านั้น การบริหารจัดการโลจิสติกและเทคโนโลยีจัดการจุดรับเชื่อมก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ยิ่งในโลกยุคใหม่ที่จะมีการแข่งขันสูง ประเทศไทยเราเองก็เริ่มมีกิจการรับส่งสินค้าเอกชนเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น รับการขยายตัวการช็อปปิ้งออนไลน์
ผู้เขียนใช้บริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์บ่อยขึ้น แรกๆ ไปรษณีย์ไทยมาส่ง แต่ระยะหลังสองสามเดือนมานี้ สั่งสินค้าจาก Lazada ปรากฏว่าผู้ที่นำมาส่งถึงบ้านไม่ใช่แค่ไปรษณีย์แล้ว ยังมีกิจการหน้าใหม่อย่าง Kerry ที่มาพร้อมกับการโทรศัพท์นัดหมายก่อน แถมมาพร้อมกับลูกเล่นใหม่ให้เราใช้ปากกาเซ็นต์บนหน้าจอแท็บเล็ตยืนยันการได้รับสินค้า โอ..มันเป็นอะไรที่หรูหราและแปลกมาก แต่การสั่งสินค้า Lazada ล็อตล่าสุดก็มีอีกเจ้าหนึ่ง เจ้าหลังนี้มีแต่เอกสารให้เซ็นต์ ผมถามว่าเป็นกิจการชื่ออะไร น้องเขาตอบว่าเป็นของ Lazada เอง
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวที่มีผู้ให้บริการหน้าใหม่ๆ ที่ยกตัวอย่างมา เกิดขึ้นเร็วมาก และนี่ก็จะมีเจ้าแมวดำ ทะคิวบิง ที่จะมาร่วมวงศ์ไพบูลย์อีกเจ้าหนึ่งแล้ว
นี่เป็นสัญญาณของโลกยุคออนไลน์ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจคนกลางเดิมๆ ของผู้ค้าท้องถิ่น ผู้ค้ารายย่อย SMEs ทั้งหลายเช่นโชห่วย เอเยนต์ ดีลเลอร์ ซาปั๊วฯลฯ ที่เคยสั่งค้าค้ามาขาย เพิ่มกำไรนิดหน่อยในฐานะคนกลางต้องเหนื่อยหนักขึ้นไปอีก
แต่ในทางกลับกัน ปรากฏการณ์ที่ว่าจะเป็นโอกาส ยังประโยชน์ให้กับเจ้าของกิจการรายย่อย SMEs หรือผู้ผลิตรายเล็กรายน้อย ที่แต่เดิมต้องอาศัยช่องทางกระจายสินค้าของคนอื่นจะสามารถขายตรง ส่งสินค้าถึงมือลูกค้าผ่านบริษัทรับส่งสินค้าเจ้าใหญ่เจ้าท้องถิ่นที่กำลังทยอยเข้ามาชนิดที่เลือกได้ ไม่เหมือนแต่ก่อนที่มีแต่ไปรษณีย์ไทยเจ้าเดียวเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ยังมีถึงขนาดที่ลูกค้าคนไทยจะเลือกช็อปปิ้งสินค้าในเขตอาเซียนด้วยกัน จัดส่งถึงบ้านในราคาไม่แพงมาก ตัวผู้เขียนมีประสบการณ์โดยตรง เพราะกำลังหารองเท้ายางยี่ห้อดังที่สวมสบายยี่ห้อหนึ่งซึ่งเคยสวมใส่แล้วติดใจ ปัญหาก็คือ ผู้นำเข้าหลักสองรายของไทยไม่สั่งรองเท้ารุ่นนี้มาขายแล้ว ผู้เขียนเสิร์ชหาดูปรากฏว่าตัวแทนขายในประเทศสิงคโปร์ยังมีรองเท้ารุ่นนี้จำหน่ายอยู่ และเขาขายออนไลน์จัดส่งมายังประเทศไทยด้วยสิ ราคาแพงกว่าที่ควรจะซื้อได้ในไทยราวๆ 300-400 บาทเท่านั้น (รวมจัดส่ง)
คิดอยู่ว่าจะชะลอซื้อรองเท้าจากสิงคโปร์สักสองสามเดือน รอให้เจ้าแมวดำ ทะคิวบิง เริ่มให้บริการสักระยะ ไม่แน่ว่าค่าขนส่งจากสิงคโปร์จะลดลงกว่านี้สักหน่อย
กลับมาคิดอีกที เอ๊ะ ที่จริงก็ควรจะมีกิจการสินค้าขนส่งพัสดุสัญชาติไทยที่ดำเนินการอยู่เดิม ยกระดับ ปรับตัวเองรองรับการรับส่งสินค้าพัสดุทั่วไทย หรือข้ามไปมาเลเซีย-สิงคโปร์แบบที่แมวดำเขาทำ ก็น่าลุ้นอยู่ไม่น้อย
เพราะนี่ เป็นกิจการในอนาคต ซึ่งตลาดยังกว้างขวางรอให้บุกเบิก.