โลกเปลี่ยนแปลงในแต่ละวันรวดเร็วทางด้านของข้อมูลข่าวสารความรู้เปรียบเทียบเหมือนช้างกระดิกหูงูแลบลิ้น ประหนึ่งลมทะเลพัดเข้าหาชายฝั่งทุกวี่ทุกวัน วันเวลาไหลเหมือนกับแม่น้ำเจ้าพระยาไหลลงสู่ทะเล ชีวิตและเทคโนโลยีมีแต่จะเดินหน้าไม่มีวันถอยหลัง พลังความเปลี่ยนแปลงทำให้คนเก่งกลายเป็นคนไม่เก่ง เพราะไม่ปรับตัวเราทุกคนมีโอกาสพอๆ กันในโลกดิจิตอล ในฐานะที่เป็นผู้ใช้งานใครปรับตัวเร็วกว่าคนนั้นชนะทั้งบุคคลและองค์กร
Google เปิดบริการส่งเงินผ่าน Gmail
มหาวิทยาลัยเกริกได้รับคัดเลือจากธนาคารกสิกรไทย ให้เข้าไปเสนอหลักสูตรดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งสำหรับผู้บริหาร ผมได้รับการชักชวนให้เข้าเป็นทีมคณะผู้สอน ร่วมกับอาจารย์ของ ม.เกริก, อ.จตุพล ทานาฤทัยผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO การโฆษณาประชาสัมพันธ์บนGoogle แบบไม่เสียเงิน , อ.ศรัณย์ ยุวรรณะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการซื้อโฆษณาบนเฟซบุ๊ก และการบริหารโซเชียลมีเดียให้กับภาครัฐ เราสามคน เป็นทีมดิจิทัล (www.teamdigital.co) ที่ชื่นชอบการสอนการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ผมดีใจมากที่ได้มาธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ครั้งแรกที่สะพานพระราม 9
เพราะเมื่อ ปี พ.ศ.2551 ระหว่างที่ผมไปเขียนหนังสือที่สหรัฐอเมริกา ชีวิตผมอยู่รอดได้ด้วยบัตร Kwebcard ของกสิกร ทั้งการซื้อตั๋วเครื่องบินในประเทศและการกดเงินสด ซื้อสินค้าออนไลน์ในการใช้ชีวิตที่นั่นตลอด 6 เดือน ผมได้เล่าสิ่งที่ผมอยากจะเล่าให้กับทีมงานของธนาคารกสิกร ซึ่งทุกท่านก็ต้อนรับด้วยไมตรีจิตอย่างยิ่ง ก่อนไปเสนอหลักสูตร ผมเห็นความน่ากลัวของเทคโนโลยีที่จะมีผลกระทบกับธนาคารก็คือ Google เปิดบริการรับส่งเงินผ่าน Gmail ได้แล้วในสหรัฐอเมริกา สิ่งเร็วๆ นี้ ก็คือมาถึงเมืองไทย ลองคิดดูว่า เครื่องโทรศัพท์แอนดรอยด์ในเมืองไทยมีกี่เครื่อง ถ้าส่งโอนเงินส่งเงินได้อะไรจะเกิดขึ้นน่าสนใจมาก ธนาคารจะรับมืออย่างไร พร้อมเพย์เพิ่งโอนเงินผ่านหมายเลขโทรศัพท์ก็เพิ่งเริ่มไม่นาน Gmail ก็กำลังเข้ามาอีกแล้ว เกมนี้การตลาดดิจิตอลการสร้างแบรนด์ การนำเสนอผลิตภัณฑ์สินค้าของธนาคารจะเป็นอย่างไรในอนาคต ที่ต้องเผชิญกับคู่แข่งอย่าง Google ที่กำลังกระโดดเข้ามามีส่วนร่วมบริการทางการเงิน
ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งก็คือ การตลาดออนไลน์ แบ่งออกเป็นหลายแบบตามแต่กลยุทธ์
เมื่อ 10 ปีก่อน ทำ SEO ทำอย่างไรให้เว็บไซต์ ติดอันดับใน Google แบบไม่เสียเงิน, การซื้อโฆษณาใน Google Adwords, การส่ง Email Marketing, การเขียนบล๊อคคอนเทนต์, ทำเว็บไซต์ ฯลฯ มาถึง ปี 2017 ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปบทบาทของโซเชียลมีเดียขึ้นมาเสริมพลังอำนาจของคนธรรมดากลายเป็นสื่อมากขึ้น การตลาดออนไลน์เปลี่ยนรูปแบบไปมาก แถมยังมีอำนาจไปทำลายล้างสื่อกระแสหลักด้วยซึ่งเป็นเครื่องมือของการตลาดยุคเก่า
ผมไปสอนมาหลายองค์กรทั้งภาคธุรกิจและเอกชน ตั้งแต่บริษัทแสนล้านในตลาดหลักทรัพย์ ไล่ลงมาจนถึงร้อยล้าน SME ธุรกิจท่องเที่ยว บริการ ไอซีทีชุมชน มาถึงภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ ที่ไม่หวังผลกำไรบริการประชาชน ผมได้เรียนรู้ว่า องค์กรเหล่านี้เหมือนกับชีวิตและนิสัยของคน อนุรักษ์นิยม เสรีนิยม กล้าได้กล้าเสีย อยากทดลองสิ่งใหม่ๆ จิตวิทยาในองค์กร สะท้อนภาพออกมาที่พนักงานและนโยบายของหน่วยงาน
หลักสูตรการฝึกอบรมการตลาดดิจิตอลในประเทศไทย และแนวทาง อาจารย์ผู้สอนแต่ละคนก็แตกต่างกัน สไตล์การสอนก็ไม่เหมือนการ เทคโนโลยี การนำเสนอ การทำการตลาดดิจิตอลในองค์กร บางอย่างทำได้บางอย่างทำไม่ได้ แต่สิ่งที่ผู้บริหารควรทราบ ว่าโลกนี้ควรจะไปอย่างไร สิ่งที่ควรรู้และ สิ่งที่ควรทำ หรือการเอาไปกำหนดเป็นแผนการตลาดออนไลน์ของบริษัทและองค์กร
เป้าหมายของการตลาดไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือธุรกิจ คือ การทำให้สินค้าและบริการเป็นที่รู้จักจดจำ เห็นแล้วอยากใช้งาน อยากควักเงินในกระเป๋าซื้อ เงินไม่มีก็ต้องรีบหามา ใช้แล้วอยากใช้อีก เมื่อสินค้าหมดหรือเก่าตกรุ่นก็อยากจะใช้อีกไม่เปลี่ยนไปที่อื่น ให้มีความรู้สึกที่ดีกับองค์กรอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่นึกถึงทีไรแล้ว อยากก่นด่า อยากเลิกใช้ ไปเจอเพื่อนคนไหนก็บ่นให้ฟัง ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ๆ ทำให้ธุรกิจพังได้เร็วขึ้น
ผมอยากนำเสนอสำหรับสิ่งที่ผู้บริหารการตลาดดิจิตอลควรรู้ในองค์กร สิ่งที่ควรทำคือ การอัพเดทการใช้เทคโนโลยีแอปบนสมาร์โฟน เพราะสมาร์ทโฟนเป็นศูนย์การของชีวิต
เช็คลิสต์ว่า ถ้าเรามีสินค้าในการทำตลาดมีเครื่องมือไหนบ้างที่ได้ผลและรวดเร็วที่สุด ผมยังจำได้ดีตอนที่เข้าไปเป็นที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ก่อนคำพิพากษาไม่กี่วันทางกระทรวงถามว่า เครื่องมือ โซเชียลมีเดียตัวไหนได้ผลเร็วที่สุด ตอนนั้นตอบทันทีไม่ได้ต้องเข้าไปใช้เครื่องมือทางโซเชียลมีเดียของ ZocialEye ถึงจะได้คำตอบ
ผู้บริหารต้องมีระบบ Klout สำหรับตรวจสอบพลังโซเชียลมีเดียขององค์กรว่าอำนาจในการสื่อสารออกไปมีพลังเป็นตัวเลขมากน้อยเพียงใด จากคะแนนเต็มร้อย Klout มีเป็นแอพและเว็บไซค์
ต้องนำโซเชียลทุกตัว Facebook , Twitter , Youtube , IG ฯลฯ ติดตั้งลงไปแล้วจะมีคะแนนขึ้นมาซึ่งก็ไม่เคยตำ่กว่า 60 คะแนนสำหรับองค์กรใหญ่ ถ้าคะแนนต่ำหมายถึงเราสื่อสารโพสต์ข้อมูลข่าวสารลงไปน้อย หรือโพสต์ไปแล้ว ไม่มีการบอกต่อ
ผู้บริหารต้องเข้าใจเรื่องการตลาดดิจิตอลกับโซเชียลมีเดีย ผสมผสานไปด้วยกัน เหมือนข้าวสวยร้อนๆ ทานกับ กับข้าวอร่อย ควบคู่กันไป
ผู้บริหารควรต้องมีคอนเทนต์ เรื่องราว Storytelling อะไรที่นำเสนอแล้วโดนใจ อันเกิดจากประสบการณ์ของตัวเองด้วย ให้เกิดการบอกต่อเพราะหัวใจโลกทุกวันนี้ การบอกต่อเป็นหัวใจมากกว่าที่จะระดมเงินจ่ายเพื่อให้สินค้ามีเชื่อเสียง
ในองค์กรใหญ่มีหลายฝ่ายหลายแผนก แผนการตลาดดิจิตอลและแผนโซเชียลมีเดียเพื่อการประชาสัมพันธ์ได้มาผูกรวมกันหรือไม่ ผมเคยเห็นหลายองค์กรมานั่งเล่าแต่ปัญหา แทนที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆที่ไปช้างหน้า มีแต่นำเรื่องอดีตมาทิ่มแทงกัน ผู้บริหารการตลาดดิจิตอลต้องประสานประโยชน์ในองค์กรให้เกิดความเท่าเทียมเพราะทุกหน่วยธุรกิจต่างก็รักองค์กรทั้งนั้นอยากให้องค์กรเติบโตก้าวหน้า
ผู้บริหารต้องมีที่ปรึกษาหรือลูกน้องที่เคยเล่าเรื่องอัพเดทสิ่งใหม่ๆ ให้ฟัง เช่นช่วงนี้วัยรุ่นนี้ฟังเพลงอะไร ใช้แอพอะไรที่กำลังได้รับความนิยม กระแสโซเชียลมีอะไรบ้าง หนังสือที่อ่าน ผมอยากเสนอว่าช่วงนี้ถ้าองค์กรไหนมีเงินเยอะๆ ลองไปทำการตลาดบนแอป Joox Music ครับ ทำเป็นเพลย์ลิสต์เพลงให้เหมาะกับแคมเปญที่เราอยากเสนอไปให้กับสังคมออนไลน์
ผู้บริหารต้องให้ความเคารพความสามารถของคนด้านการตลาดดิจิตอล มองบุคลากรด้วยความเคารพ เพิ่ม Self esteem ความเชื่อมันในพนักงาน นำความรู้เก่าที่เขามีอยู่เพิ่มความรู้ใหม่เข้าไป เน้นให้กระตุ้นเสนอผลงานแสดงความคิดเห็นบ้าง
ผู้บริหารต้องฝึกเรียนรู้ใช้โซเชียลมีเดีย เหมือนกับการออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรง การส่ง Line เป็นเหมือนกับ Intranet เพื่อพัฒนาศักยภาพเทคโลยีควรเรียนรู้เครื่องมืออื่นด้วย เพราะการตลาดดิจิตอลซึ่งมีความสัมพันธ์กับจิตวิทยาสังคมผสมผสานกันอยู่ในนั้น เช่นต้องเข้าไปดู Youtube Trending ว่ากระแสยูทูป เป็นอย่างไร , กระแส Twitter
แฮชแทคไหนมาแรง google trend กระแสคำค้นหาใน Google แต่ละวัน , google alert คีย์เวิร์ด ชื่อองค์กร ผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการมีการพูดถึงผ่าน google และโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ไหนบ้าง
ผู้บริหารต้องมีระบบ โซเชียลมีเดียมอนิเตอร์ริ่ง คอยจับกระแสคู่แข่ง ว่ามีปริมาณ สัดส่วนข้อมูลต่างๆ มากกว่าเราหรือไม่อย่างไร ถ้าน้อยกว่าก็ต้องเพิ่มข้อมูลเข้าไป มีหลายโปรแกรมให้บริการ แต่ถ้าอยากใช้งานแบบแอพ แนะนำแอพ Mention
เรียกทีมงานการตลาดดิจิตอลมา กำหนด KPI เอาโซเชียลเน็ตเวริ์ค มากางดูกัน Facebook , Twitter , Line , Instagram , Youtube , เว็บไซค์ , คำค้นหา ทำตัวเลขออกมาแล้วตั้งเป้าหมายให้ทีมงานไปให้ถึงจุดนั้น ใช้ทั้ง Owned Media, Paid Media , Earned Media ผสมผสานเข้ากับกลยุทธ์ขององค์กร
ผู้บริหารการตลาดดิจิตอลควรจะติดตั้งแอป Facebook Ads ไว้ลงในสมาร์ทโฟนเพื่อลองใช้งานการซื้อโฆษณา ดูพฤติกรรมของผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดีย หรือให้ลูกน้องลองใช้งานแล้วลองทำแคมเปญต่างๆ ทั้งภาพ วีดีโอ บูสโพสต์ โปรโมทแฟนเพจ ทำคลิปบนยูทูปแล้วซื้อโฆษณาผ่าน Google adwords ศัพท์แสงเหล่านี้ค่อยๆ เรียนรู้ไปครับไม่ยากเลย
ผู้บริหารต้องติดตั้ง Facebook Fanpage Manager ไว้ในสมาร์ทโฟน เพื่อติดตามจำนวนผู้คนที่เข้ามาใน แฟนเพจ แบ่งเป็นเพศหญิงชาย อายุ จังหวัด ความสนใจ แล้วใช้ประสบการณ์ในการทำงานให้ข้อเสนอไอเดียใหม่ๆ กับลูกน้อง หรือเพื่อจะได้สั่งงานได้ถูกต้องตามประสบการณ์และสัญชาติญาณที่ควรจะเป็น
ผู้บริหารควรลองกระจายอำนาจ ในการทำการตลาดดิจิตอลให้กับฝ่ายอื่นๆ บ้าง เพื่อเป็นการทดลองเพิ่มศักยภาพในโลกโซเชียลมีเดียที่ทุกคนเป็นสื่อได้ ไม่ควรรวบอำนาจไว้ที่ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างเดียว
การตั้งงบการตลาดบนดิจิตอลไม่ได้มากมายเหมือนกับสื่อกระแสหลัก ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ มีเงิน 100 บาท หรือ 3 เหรียญก็ซื้อได้แล้ว เป็นการเรียนรู้กับองค์กร
ถ้าหากผู้บริหารเป็นเจ้าของกิจการ ยิ่งต้องเรียนรู้ไว้บ้างสำหรับสั่งงาน และเพื่อการจ้างให้มีประสิทธิภาพ
ผู้บริหารควรจะมีแอป Flipboard , Kindle , Ookbee สำหรับองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมของลูกค้า
ในยุคโซเชียลมีเดีย การตลาดดิจิตอล เป็นเครื่องมือที่สำคัญของการอยู่รอดธุรกิจ ภาคการศึกษา
ก็ควรสร้างบุคลากรให้เท่าทันกับสังคมธุรกิจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขียนด้วยความรักและปรารถนาดี ในฐานะอาจารย์สอนโซเชียลมีเดียเพื่อการประชาสัมพันธ์
บันทึก พฤหัสบดี 16 มีนาคม พ.ศ. 2560
